ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม ที่ หมู่ 2 ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หลังจากรัฐบาลได้สร้างอ่างเก็บน้ำห้วยอ้วนตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่บ้านอ้วน หมู่ 2 ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อปี 46 ทำให้ในหลายพื้นที่ ที่เกษตรกรเคยทำนามีน้ำท่วมขัง เกษตรกรเลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการทำนาบัวแทน
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอศรีสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นความสำคัญของ บัว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างหนึ่งของจังหวัดนครพนม จึงได้นำจัดทำโครงการส่งเสริมการทำนาบัวตามแนวพระราชดำริ ด้วยการมอบปัจจัยในการผลิตให้กับเกษตรเพื่อเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับทางเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ซึ่งดอกบัวถือเป็นราชินีแห่งไม้น้ำที่ได้รับความนิยมตลอดมา เนื่องจากบัวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ และด้วยสีสันสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้บัวเป็นที่ต้องการของท้องตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะจังหวัดนครพนม มีพระธาตุประจำวันเกิดครบทั้งเจ็ดวัน ช่วงเทศกาลและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ราคาของบัวจะสูงขึ้น ซึ่งนอกจากพื้นที่ปลูกบัว หรือ “นาบัว” ก็มีการปลูกบัวแทนการทำนาข้าวเช่นกัน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมขังทำให้ผลผลิตข้าวไม่คุ้มค่า และการทำนาบัวสามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูกได้มากกว่าอีกด้วย ซึ่ง นาบัว ที่เกษตรกร ที่น้ำท่วมขังหลังจากสร้างอ่างเก็บน้ำ จำนวน 12 ราย ได้นำพันธุ์ บัวมาปลูกเพื่อเก็บดอกและฝัก ขายทำรายได้เดือนนับหมื่นเลยทีเดียว
โดยจะปลูกคนละประมาณ 10-20 ไร่ สำหรับพันธุ์ที่ปลูก ได้แก่ บัวหลวงพันธุ์ฉัตรขาว และฉัตรแดง นอกจากนี้ บัวหลวงยังเป็นบัวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมาก เกษตรกรนิยมปลูกมากกว่าบัวชนิดอื่น ทั้งนี้ ราคาดอกบัวภายในจังหวัดช่วงวันสำคัญราคาดอกละ 1-3 บาทเลยเดียว และยังเก็บฝักขายได้อีกด้วย
นายทรงชัย เสนเพ็ง อายุ 56 ปี เกษตรกรเจ้าของนาบัว ชาวบ้านอ้วน หมู่ 2 ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีพื้นที่ปลูกบัวอยู่กว่า 10 ไร่ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการทำนาบัวว่า ตนเริ่มปลูกบัวเมื่อ หลังจากรัฐบาลได้มาสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยอ้วน โดยช่วงเริ่มต้นได้เช่าพื้นที่ปลูกบัวประมาณ 3 ไร่ ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ปลูกไปแล้วจำนวน 10 ไร่ เก็บดอกและฝักบัวขายมีคนมารับถึงที่รายได้ดีเดือนละ 30,000-40,000 บาท
