เกษตรกร ต.ท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร ฟังคำแนะนำจากรัฐบาลหันมาปลูกข้าวโพด ใช้น้ำ ใช้พื้นที่น้อย ทนแล้ง ทนโรค ลงทุนเพียง 2 หมื่นบาท ในพื้นที่ 4 ไร่ ใช้เวลาดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยเป็นเวลากว่า 2 เดือน เก็บส่งขายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท รายได้ดี 2-3 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.สกลนคร แม้จะยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแต่ทางจังหวัดได้ส่งเสริมให้เกษตรกรช่วยประหยัดน้ำและหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อลดผลกระทบจากการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ผลปรากฏว่าเกษตรกรในหลายพื้นที่เข้าใจต่อสถานการณ์ภาวะวิกฤตภัยแล้งที่กำลังเผชิญอยู่ จึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาปลูกพืชอื่นๆ สร้างรายได้ก่อนจะถึงฤดูกาลทำนาปี เช่น เดียวกับเกษตรกร บ.ท่าแร่ ต.ท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร ได้หันมาปลูกข้าวโพดกันมากขึ้น
นายสมทิด ตระกูลมา อายุ 48 ปี เกษตรกร บ.ท่าแร่ เปิดเผยว่า ในปีนี้สภาวะภัยแล้งอาจยาวนานกว่าฝนจะตกลงมา จึงต้องหาวิธีสร้างรายได้เพื่อปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ตามคำแนะนำจาก จนท.โดยการปลูกข้าวโพด เพราะใช้น้ำน้อย ทนแล้ง ทนโรค ดูแลรักษาง่าย ทำการปลูกในที่นาจำนวน 4 ไร่ ลงทุนทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ไถพรวน จบในทีเดียว ประมาณ 2 หมื่นบาท เริ่มปลูกมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ตอนนี้ต้นข้าวโพดกำลังเจริญเติบโตและออกผล คาดใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ตอนนี้มีเพียงให้น้ำและปุ๋ยคอก เร่งการเจริญเติบโตเหมือนพืชอื่นๆ ทั่วไป ไม่ต้องกังวลว่าน้ำใต้ดินที่ใช้รดจะเหือดแห้งเพราะมีพื้นที่ใกล้กับหนองหาร ส่วนการส่งขายจะส่งขายกับผู้รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ประเมินน้ำหนักผลผลิตที่ได้ คิดเป็นเงินราวๆ 4-5 หมื่นบาท มีกำไรเห็นๆ 2-3 หมื่นบาท
