แม้ว่าตลาดรถยนต์ภายในประเทศโดยรวมจะหดตัวลง ด้วยยอดขายรวม 799,594 คัน ลดลง 9.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่สำหรับตลาดรถยนต์หรูกลับโตสวนกระแส เพราะกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้สูงไม่ได้รับผลกระทบจากภาพเศรษฐกิจ
ภาพสะท้อนการขยายตัวของตลาดรถหรูได้ดีอีกมุมหนึ่งก็คือ การลงทุนขยายบริการของบรรดาผู้แทนจำหน่าย เพื่อแข่งขันการให้บริการ เพื่อหวังดึงดูดลูกค้ากำลังซื้อสูงเข้าร้าน
สำหรับค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะผู้นำตลาดรถหรู ในปี 2558 ที่ผ่านมาทุบสถิติสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ยอดขายอยู่ที่ 12,776 คัน เติบโต 12.78% เมื่อเทียบกับปี 2557 ครองอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดรถหรูต่อเนื่องเป็นปีที่ 15
ล่าสุด เบนซ์ สตาร์แฟลกซ์ ผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดด้านบริการแบบที่ไม่เคยมีดีลเลอร์รายใดในประเทศไทยหรือแม้แต่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเคยทำมาก่อนมาเรียกลูกค้าเข้าไปใช้บริการ
เพราะแนวคิดหรือคอนเซ็ปต์ การันที บาย แบ๊ก (Guarantee Buy Back) ถูกนำมาใช้แห่งแรกในไทย ชูภาพลักษณ์โชว์รูมทันสมัย และศูนย์บริการครบวงจร มาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์เยอรมัน
มีคำถามว่า เบนซ์ สตาร์แฟลกซ์ ทำไมถึงกล้าใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาทเพื่อขยายบริการ ทั้งที่เปิดดำเนินการมาเมื่อปี 2013 เท่านั้น ถือว่าระยะเวลาสั้นมาก เมื่อเทียบกับดีลเลอร์รายอื่นที่ดำเนินการมานับ 10 ปี
สาเหตุเพราะสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ในฐานะผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์เบนซ์ได้ โดยในปี 2015 มียอดจองสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของตัวแทนจำหน่ายและทำยอดขายได้เกิน 1,000 คันครั้งแรก
ดังนั้นจึงต้องการตอกย้ำภาพลักษณ์ของโชว์รูมทันสมัย ศูนย์บริการมาตรฐานแบบเยอรมัน ชูบริการครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พร้อมสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าก้าวเข้ามาสัมผัสถึงความเป็นโลกเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างแท้จริง เป็นการรุกคืบด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายวิกรานต์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มสายงานขายและการตลาด บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ได้เล่าให้ฟังถึงเป้าหมายว่า
“เบนซ์ สตาร์แฟลกซ์ ต้องการให้ลูกค้าก้าวเข้ามาที่เบนซ์ สตาร์แฟลกซ์ เหมือนก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ในทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งโชว์รูมตามต้นแบบเยอรมัน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรถผ่านไอ-โชว์รูม (i-showroom) เพื่อให้ลูกค้าได้ชมทุกรุ่น ทุกสี การเลือกใช้น้ำหอมในโชว์รูมเป็นกลิ่นเดียวกับที่ใช้ในรถรุ่นเอส-คลาส (S-Class) เป็นต้น
มีรถรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือกชม พร้อมมอบสิทธิพิเศษที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า สามารถส่งมอบรถได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเรายังมีรถทดลองขับมากที่สุด เป็นจุดเด่นที่ลูกค้าพึงพอใจ เพราะได้เปรียบเทียบทั้งการขับขี่และสเปกรถของหลายรุ่นก่อนตัดสินใจ และเรายังมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเชิญร่วมงานเปิดตัว พรีวิวยนตรกรรมไฮไลต์ ชมแฟชั่นโชว์เครื่องประดับล้ำค่ากับนาฬิกาหรู จิบไวน์และแชมเปญชั้นเลิศ พร้อมร่วมรับประทานอาหารจากเชฟมิชลิน และอีกหลากหลายกิจกรรมที่เราคัดสรรมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
เราเป็นรายแรกในไทยที่มี ดิ เอ็กซ์เซลเลนซ์ นิว คาร์ ดีลิเวอรี่ เซ็นเตอร์ (The Excellence New Car Delivery Centre) พื้นที่ส่งมอบรถใหม่ขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอการใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่านจอดิจิตอล (Digital screen) การติดตั้งระบบไอเสียของรถ จะมีท่อต่อออกไปพื้นที่ภายนอก เพื่อไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ มีส่วนการรับรองพิเศษเป็นส่วนตัว เพื่อสร้างมาตรฐานการใช้งานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่วนลูกค้าที่ชื่นชอบสปอร์ต ลักชัวรี่ คาร์ (Sport Luxury Car) สามาถเลือกชมและจองเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes-AMG) ได้ที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี บูติก คอร์เนอร์ (Mercedes-AMG Boutique Corner) เป็นแห่งแรกอีกด้วย
เปิดให้บริการที่รับซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไมล์น้อย สภาพดี พร้อมรับประกันคุณภาพจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) หรือโพรเวน เอ็กซ์คลูซิวิตี้ เซ็นเตอร์ (Proven Exclusivity Centre) ที่ใหญ่ ทันสมัย และมีรถให้เลือกหลากหลายรุ่นมากที่สุด
เบนซ์ สตาร์แฟลกซ์จะเป็นรายแรกของประเทศไทย ใช้คอนเซ็ปต์ การันที บาย แบ๊ก ลูกค้าซื้อรถกับเรา ใช้ไปแล้วระยะหนึ่งแล้วอยากจะเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่น เรากล้าการันตีรับซื้อคืนทุกคัน รถยนต์มือสองทุกคันของเราได้รับมาตรฐานการตรวจสอบพร้อมสิทธิพิเศษ ได้แก่ รับประกัน 20,000 กิโลเมตร (1 ปี) รับประกัน 40,000 กิโลเมตร (2 ปี) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ผ่านการตรวจสอบ มัลติ-พอยต์ วีฮิเคิล เช็ก (Multi-Point vehicle check) ตามมาตรฐาน ไม่เคยผ่านอุบัติเหตุร้ายแรงใดๆ ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ ทดลองขับก่อนซื้อจริง บริการข้อเสนอด้านการเงินและการประกันภัย
เมื่อถามว่า ลงทุนมากขนาดนี้หมายความว่าค่าบริการก็ต้องสูงไปด้วย นายวิกรานต์ชี้แจงว่า เราจะใช้กลยุทธ์วอลุ่มหรือปริมาณขายเข้ามาให้มาก มากกว่าใช้วิธีเพิ่มค่าบริการแพงๆ เพราะเชื่อว่าฐานลูกค้ารถเบนซ์ในประเทศไทยมีจำนวนมาก หากพัฒนาบริการให้ดี ก็จะมีจำนวนลูกค้าเข้าโชว์รูมมากขึ้น จะทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนได้ไม่ยาก
ด้าน มร.แบนด์ อามานน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการหลังการขาย ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบริการหลังการขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จากประเทศเยอรมนีและมีประสบการณ์มากว่า 20 ปีในหลายประเทศทั่วโลก ผู้ดูแลระบบทั้งหมดของเบนซ์ สตาร์แฟลกซ์ให้มีความเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์มากที่สุด ขยายความถึงรายละเอียดการบริการให้ฟังว่า
“เรายังใส่ใจทุกรายละเอียดที่ส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการจะส่งไปยังผู้บริโภคโดยตรง แม้กระทั่งการเลือกกระเบื้องเซรามิกใช้ปูพื้นภายในตัวศูนย์บริการ ต้องนำเข้าจากเยอรมัน มีความหนา 15 มิลลิเมตร มีอายุการใช้งานนานถึง 20 ปี เหมือนกับศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศเยอรมนี ในเมืองไทยเราเป็นรายแรกที่ใช้กระเบื้องพิเศษแบบนี้ เป็นการยกมาตรฐานการบริการ ขณะที่ราคายังคงเป็นไปตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
ศูนย์บริการมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 12,000 ตารางเมตร สามารถรองรับรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการได้มากกว่า 100 คันต่อวัน มีช่องซ่อมบำรุงกว่า 45 ช่อง พร้อมบริการครบวงจรสามารถรองรับการซ่อมรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีตัวถังอะลูมิเนียม และเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid) ทั้งการซ่อมแบบเร่งด่วน หรือควิก เซอร์วิส (Quick Service) ซ่อมทั่วไป และซ่อมตัวถังและสี มีศูนย์ซ่อมตัวถังและสี (Body and Paint) พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ห้องอบสีระบบไฟฟ้าอินฟราเรดทำให้สีแห้งเร็วขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในขณะนี้ และเครื่องดึงตัวถังและตัดต่อตัวถังสำหรับงานซ่อมหนักเป็นตัวแรกของประเทศไทย สามารถวัดค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุหนักด้วยระบบดิจิตอล ไม่สามารถเห็นด้วยสายตา เพื่อการซ่อมที่ละเอียดและแม่นยำ มีห้องเก็บอะไหล่ขนาดใหญ่เพื่อสต๊อกไว้พร้อมสำหรับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์หลากรุ่นตั้งแต่รุ่นปีเก่าจนถึงรุ่นล่าสุด เพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องรอในการสั่งอะไหล่
นอกจากนี้ ทางบริษัทเน้นมาตรฐาน ออโต เฮาส์ 500 (Auto Haus 500) ของเยอรมัน คือ มีรถโชว์ 12 คันขึ้นไป รถทดลองขับ 10 คันขึ้นไป ลูกค้าจะได้มีโอกาสทดลองขับรถครบทุกรุ่น สามารถส่งมอบรถรุ่นใหม่ๆ และรุ่นหายากในทุกๆ เซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถในกลุ่มเอ็กโซติก คาร์ (Exotic Cars) หรือรถในกลุ่มเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี โดยในปีที่แล้วมีการส่งมอบรถไฮไลต์ไปบ้างแล้ว อาทิ เมอร์เซเดส-มายบัค (Mercedes-Maybach) สุดยอดรถหรูตระกูลเบนซ์ เอเอ็มจี จีที เอส (AMG GT S) เอส500 คูเป้ (S500 Coupe) เอเอ็มจี พรีเมียม (AMG Premium) เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes- AMG) ซีแอลเอ45 (CLA45) เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes – AMG) จีแอลเอ45 (GLA45) และเมอร์เซเดส-จี63 (Mercedes-G63)
ล่าสุดมอบสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 หรือหากสนใจเข้าใช้บริการที่ศูนย์บริการรับส่วนลดค่าแรง 15% และค่าอะไหล่ 20% แบ่งชำระ 0% สูงสุดนาน 6 เดือน ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น”
