เล็กดี รสโต พะจุณณ์ ตามประทีป ขึ้นกับ ตำรวจ

ความจริง กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่ง “หมายเรียก” ไปยัง พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ก็เป็นเรื่องซึ่งอาจเรียกได้ว่า

“ไม่ธรรมดา” อยู่แล้ว

เพราะความสัมพันธ์ของ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ไม่เพียงแต่ในฐานะที่เคยเป็นคนของ “บ้านสี่เสา” อันมากด้วย “บารมี”

หากแต่โยงไปยัง “พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย”

Advertisement

หากแต่โยงไปยังการเคลื่อนไหวอย่างเอาการเอางานของ “กปปส.” และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้พ้น

พลันที่ นายอุดม เฟื่องฟุ้ง เผยแสดง

พลันที่ นายอุดม เฟื่องฟุ้ง มอบหมายให้ นายนิติธร ล้ำเหลือ เล่นบทเป็น “กองหน้า” ในการบุกทะลวงไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เสียงร้อง “ฮ้อ” ก็ดังขึ้นจาก “จตุรทิศา”

จุดเริ่มต้นจากประเด็นอันเคยถกเถียงภายในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็ทำท่าว่าอาจจะบานปลาย

แต่จะบานปลายอย่าง “ใหญ่แล้ว” หรือไม่ ยังต้องติดตาม

 

โดยชื่อและชั้นของ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ย่อมมิได้เป็น “ตะเกียง” อันดำรงอยู่ในลักษณะซึ่งขาดไร้ “น้ำมัน” อย่างแน่นอน

นามนี้โด่งดังในฐานะคนทำงานให้ “รัฐบุรุษ”

นามนี้หากเข้าไปสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวในทางการเมืองมักประสานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดอยู่กับ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์

เห็นหรือไม่ว่า “รากฐาน” ลึกซึ้งและ “แข็งแกร่ง”

หากมองผ่านชื่อของทนายความนาม นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ก็จะแทงทะลุไปถึงการสั่งสมอย่างยาวนานในฐานะของ “ตุลาการ”

ตุลาการอันแนบแน่นอยู่กับ นายชวน หลีกภัย

แสดงบทบาทอย่างเอาการเอางานตั้งแต่ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมากระทั่งก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ด้วยซ้ำไป

ยัง นายนิติธร ล้ำเหลือ นั้นเล่า

เขาผู้นี้เอง ไม่ว่าก่อนจะโกนหัวหรือภายหลังโกนหัวก็เล่นบททนายความมากับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีบทบาทเป็นอย่างมากอยู่กับ“ม็อบ” บริเวณอุรุพงษ์ก่อนมาตรการ “ชัตดาวน์” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยซ้ำไป

2 คนนี้คือผนังทองแดง กำแพงเหล็กทางกฎหมาย ให้กับ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป

หากมองจาก “หวอด” อันปรากฏผ่านแชตไลน์ในแวดวงและเครือข่าย พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป เหมือนกับเป็นเรื่องเล็ก จำกัดกรอบ

แต่พลันที่ “ตำรวจ” ถูกกดดันกระตุ้น “เร้า”

เรื่องอันจำกัดกรอบเพียง “แชตไลน์” ก็ได้รับการขยายวง กระทั่งยกระดับไปสู่การออก “หมายเรียก” โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เข้ามาแบกรับ

กระนั้น ประเด็นอันไม่ควรมองข้ามก็คือ ประเด็นการซื้อขายตำแหน่ง

1 เป็นประเด็นที่รับรู้กันมาอย่างยาวนานแล้วภายในแวดวงของตำรวจ 1 กระบวนการสะสมข้อมูลก็ไม่ได้ธรรมดา

เพราะต่อเนื่องจาก “สปช.” มายัง “สปท.”

เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่งจะเอาผิด หรือลากตัวคนเรียกเก็บเงินมาลงโทษได้ แต่ก็ดำเนินไปด้วยความหวือหวา ร้อนแรง

หวือหวา ร้อนแรงเหมือนเรื่อง “อุทยานราชภักดิ์”

หวือหวา ร้อนแรงเหมือนเรื่องการเรียกเก็บค่าหัวคิวไม่ว่าจะในการซื้อขาย “ข้าวเก่า” ไม่ว่าจะในการขุดลอกคูคลอง

ดำเนินไปอย่างวนเวียน เหมือนหมู่ภมรบินเคล้ากับเกสรดอกไม้

มี “เป้าหมาย” แน่นอน แต่ก็ดำเนินไปอย่าง “คลุมเครือ”

 

คนที่ออกแบบกรณีซื้อขายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเป็น “มันสมอง” ที่ไม่ธรรมดา

ตรงกันข้าม มากด้วยความเข้าใจ มากด้วยความรอบรู้ อาศัยช่องทางของ “แชตไลน์” ยั่วเร้าให้อีกฝ่ายถลันออกมาเล่นบทเป็น “คู่กรณี” โดยมิได้ตั้งใจ โดยมิได้ต้องการ

มิได้ตั้งใจ มิได้ต้องการ แต่ก็ดำเนินไปอย่าง “จำใจ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image