ผู้เขียน | [email protected] |
---|
เมื่อดาราหรือคนดังตกเป็นข่าว โดยเฉพาะ ‘ข่าวร้าย’ ย่อมมีชาวบ้านสนใจกันตึม ซึ่งจะว่าไป ท่ามกลางข่าวร้ายของเซเล็บคนดัง ก็มีแง่มุมที่เป็นประโยชน์อยู่เหมือนกัน
อย่างเช่น ข่าวของ ชาร์ลี ชีน ดาราฮอลลีวู้ด วัย 50 ที่ออกมาประกาศยอมรับว่าตัวเขาป่วยเป็นโรคเอดส์เมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดมีข่าวว่า ทำให้มีผู้คนสนใจเกี่ยวกับโรคเอดส์ กระทั่งทำให้ยอดเสิร์ช ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์ในกูเกิล ในวันที่พระเอกคนดังประกาศข่าวสร้างสถิติที่มีผู้คนสนใจเข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ภายในวันเดียวสูงเป็นประวัติศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือสูงถึง 417%
“กรณีของชาร์ลี ชีน ก็คล้ายกับคนดังหลายคนที่มีข่าวเป็นโรคเอดส์ อย่างเช่น ร็อค ฮัดสัน และ เมจิก จอห์นสัน ซึ่งได้กระตุ้นให้ผู้คนรู้สึกสนใจเรื่องโรคเอดส์ และการป้องกันตัวกันขึ้นมาอีก” ทีมนักสำรวจข้อมูลของ วารสารสมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา กล่าวในรายงานที่ตีพิมพ์เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทีมงานเล่าว่า มีการใช้คีย์เวิร์ดคำว่า HIV ในการค้นหาข้อมูลในกูเกิล ราว 2.75 ล้านครั้ง ใช้คีย์เวิร์ดอื่นๆ อาทิ condoms (ถุงยางอนามัย), HIV symptoms (อาการของโรคเอดส์) หรือ HIV testing (การตรวจโรคเอดส์) ราว 1.25 ล้านครั้ง และหลังจากวันที่ 17 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่เขาประกาศ ยอดค้นหาเกี่ยวกับโรคเอดส์ในกูเกิล ก็ยังสูงติดต่อกันถึง 3 วัน
จากรายงานข่าวของ เอเอฟพี ก็เล่าว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี 2547-2558 สื่อต่างๆ มีรายงานข่าวเกี่ยวกับโรคเอดส์ลดน้อยลง เทียบจากเมื่อปี 2547 ที่มีข่าวเกี่ยวกับโรคเอดส์คิดเป็นสัดส่วน 67 ข่าว ต่อจำนวนข่าวต่างๆ 1,000 ข่าว แต่ในปี 2558 ที่ผ่านมา ได้ลดลงเหลือเพียง 12 ข่าวต่อ 1,000 ข่าวเท่านั้น
แต่ในวันที่ชาร์ลี ชีน ออกมาประกาศข่าวช็อกวงการ มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับโรคเอดส์เพิ่มขึ้น 265% โดยมี 97% ที่กล่าวอ้างถึงชาร์ลี ชีน ขณะที่ลำพังแค่ใน กูเกิล นิวส์ มีรายงานข่าวโรคเอดส์เพิ่มขึ้น 6,500 เรื่อง
ภาพจาก hivequal.org
จอห์น อาเยอร์ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการทำรีเสิร์ชของมหาวิทยาลัยซานดิเอโก พูดถึงข่าวนี้ว่า ได้ส่งแรงสะเทือนต่อการป้องกันโรคเอดส์ในอเมริกา เปรียบได้เหมือนการเกิดแผ่นดินไหวได้เลยทีเดียว
“ขณะที่ไม่มีใครสมควรถูกบังคับให้เปิดเผยตัวว่าเป็นเอดส์ และผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ต่างเศร้าเสียใจ ดังนั้น การออกมาเปิดเผยข่าวนี้ของชีนจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คน โดยเป็นข่าวที่มีศักยภาพพอจะช่วยให้ผู้คนมากมายหันมาเรียนรู้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์และการป้องกัน ”
ทั้งนี้ แอริค ลีส์ นักศึกษาภาควิชาสาธารณสุข มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งร่วมทำรายงานการสำรวจครั้งนี้ ยังบอกด้วยว่า ข่าวของ ชาร์ลี ชีน น่าจะส่งแรงสั่นสะเทือนต่อการตื่นตัวของคนในสังคมได้กว้างและได้มากกว่าเมื่อครั้ง เมจิก จอห์นสัน นักบาสเกตบอลชื่อดังที่ป่วยเป็นเอดส์
เนื่องจากนี่เป็นยุคอินเตอร์เน็ต “ที่เราทุกคนมีสมาร์ทโฟนอยู่ในกระเป๋า และเราสามารถหาความรู้เรื่องโรคเอดส์ได้ง่ายมาก ด้วยเวลาไม่วินาทีจากการเสิร์ชหรือคลิกแค่ครั้งเดียว”