เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าว จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งจากคณะสงฆ์กลุ่มสหายธรรมท่าเหนือ เครือข่ายพระธรรมวิทยากรจังหวัดอุตรดิตถ์ ว่า บริเวณพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกงาม หมู่ 15 ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร พบมีบ้านเรือนราษฎรปลูกอาศัยอยู่รวมกัน จำนวน 5 หลังคาเรือน ปลูกบนพื้นที่ฝังศพคนตายหรือป่าช้าเก่า บ้านแต่ละหลังอยู่ในสภาพทรุดโทรม หลังคาและฝาบ้านถูกมุงด้วยสังกะสี โดยมีจำนวนประชากรชายและหญิงรวม 14 คน อายุสูงสุด 86 ปี อายุต่ำสุด 4 ขวบ พบพิการตาบอดเป็นผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง รวม 2 คน โดยไม่มีไฟฟ้า อาศัยตะเกียงน้ำมันแบบโบราณเป็นแสงสว่างในยามกลางคืน และไม่มีน้ำประปาใช้ต้องอาศัยน้ำจากถังที่หน่วยงานราชการจัดให้ จำนวน 2 ถัง น้ำหมดก็แจ้งขอไปแต่ละครั้งมาจ่ายให้บ้างไม่มาบ้าง ห้องน้ำสำหรับปลดทุกข์ก็ไม่มีอาศัยขุดหลุมถ่ายทิ้งแล้วกลบ สร้างความทุกข์ยากให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกครัวเรือนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ยากไร้และยากจนทั้งสิ้น โดยอาศัยอยู่บนพื้นที่แห่งนี้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว จึงอยากให้ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวเดินทางตรวจสอบ พบชาวบ้านที่ปลูก จำนวน 5 หลัง อาศัยอยู่บนเนื้อที่ดินประมาณ 1 ไร่ จากที่ดินทั้งหมด 700 ไร่ ซึ่งถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ป่าชุมชน เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองตรอนฝั่งซ้าย สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 จังหวัดลำปาง กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บ้านแต่ละหลังที่ชาวบ้านสร้างอาศัยอยู่ เป็นแบบยกพื้นสูงประมาณกว่า 1 เมตร หลังคาบ้านทุกหลังมุงด้วยสังกะสี ฝาบ้านบางแห่งหาเศษไม้มาตีผสมกับสังกะสีเพื่อกันลมและแสงแดดเข้าไปภายในบ้านและห้องนนอน ตัวบ้านแต่อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม พบทุกหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ อาศัยตะเกียงจุดในยามค่ำคืน พบมีแผงโซลาร์เซลล์แต่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หน่วยงานราชการมาติดตั้งให้ตั้งแต่สมัย อดีตนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี น้ำประปาก็ไม่มีใช้ แต่มีถังน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางบ้าน 5 หลัง จำนวน 2 ถัง พบมีน้ำเหลืออยู่ภายในถังเพียงเล็กน้อย น้ำหมดต้องตามเจ้าหน้าที่มาเติมให้
ทั้งนี้ ยังพบว่าบ้านทุกหลังไม่มีส้วมซึมใช้ ชาวบ้านต้องอาศัยพื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นส้วมโดยแบกจอบไปด้วยทุกครั้งเวลาจะปลดทุกข์ และใช้เสียมขุดเป็นหลุมขนาดเล็ก ถ่ายเสร็จแล้วจึงใช้เสียมเกลี่ยดินกลบพร้อมใช้เท้าเหยียบย่ำให้ดินแน่นเพื่อไม่ให้หมามาคุ้ยกิน
สำหรับผู้นำครอบครัวทั้ง 5 หลัง ประกอบด้วยนายประหยัด กรงทอง อายุ 86 ปี พิการตาบอดสองข้าง, นายพุฒิ ขันป้อง อายุ 76 ปี, นางปลาย มะลิวัลย์ อายุ 60 ปี พิการตาบอดสองข้าง, นายไผ่ มะลิวัลย์ อายุ 55 ปี และนายสวัสดิ์ กรงทอง อายุ 49 ปี
ด้านพระสิทธิพงศ์ วสินฺโท พระลูกวัดคุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า คณะสงฆ์ 5 รูป ประกอบด้วย พระครูศรีบุญญาคม, พระธนชัย ฐิตธมฺโม, พระสมุห์ฉัตรชัย ปญฺญาวโธ, พระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี พร้อมด้วยอาตมา ก่อตั้งกลุ่มสหายธรรมท่าเหนือ เครือข่ายพระธรรมวิทยากรจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดกิจกรรมด้านธรรมให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านร้องลึก ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน โดยกลุ่มจิตอาสาช่วยเหลือสังคมในการสร้างห้องน้ำให้กับชาวบ้าน เป็นบทบาทหน้าที่ที่ทำอยู่และสร้างห้องน้ำให้กับชาวบ้านในหลายพื้นที่มาแล้ว สอบถามนักเรียนบ้านใครยังไม่มีห้องน้ำ ด.ช.ศุภชัย คำไว นักเรียนชั้น ป.4 พูดถึงที่บ้านไม่มีห้องน้ำใช้ ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้รวมถึงน้ำประปา ฟังแล้วถึงกับอึ้งไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเป็นเรื่องจริงแถมมีผู้สูงอายุที่ป่วยตาบอดทั้ง 2 ข้างมีทั้งผู้ชายและหญิง สภาพบ้านก็ทรุดโทรม อยู่แบบตามมีตามเกิด
พระสิทธิพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นจะสร้างเป็นห้องน้ำกลางใช้ร่วมกัน มีขนาดกว้าง 2.50 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 2.50 จำนวน 2 ห้อง ไว้ใช้เพื่อปลดทุกข์เพียงอย่างเดียวเพราะวัสดุอุปกรณ์เหลือเพียงเท่านี้ จะนำกลุ่มจิตอาสาเข้าไปก่อสร้างให้ในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้ ส่วนเรื่องอื่นจะแจ้งบอกกล่าวให้ญาติโยมและเพื่อนสมาชิกกลุ่มรับทราบเพื่อขยายผล หาทางช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระภาครัฐอีกหนทางหนึ่ง
