เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นางเสาวนีย์ โขมพัตร โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พม.โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ดำเนินการจัดระเบียบขอทานมาแล้วเป็นจำนวน 6 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาค ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ผลปรากฏว่าพบขอทานรวมทั้งสิ้น 4,021 คน แบ่งเป็นขอทานไทย 2,558 คน และขอทานต่างด้าว 1,463 คน โดยขอทานต่างด้าวที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ กัมพูชา 1,267 คน พม่า 98 คน และลาว 6 คน (ข้อมูลโดยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทานและคนไร้ที่พึ่ง ณ วันที่ 3 มีนาคม 2559) ซึ่งการจัดระเบียบขอทานในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นการจัดระเบียบขอทานควบคู่กับการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ โดยดำเนินการเก็บแบบสอบถามในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่พบคนขอทานมากที่สุด ด้วยการเก็บแบบสอบถามกับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 700 ราย ในทุกวันของการจัดระเบียบขอทาน
นอกจากนี้ ให้มีการรายงานผลผ่านศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทาน เพื่อนำมาวิเคราะห์และจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อการวางแผนกลยุทธ์ในการรณรงค์ “การให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน” พร้อมทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. … ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ แยกผู้ที่แสดงความสามารถออกจากผู้ที่ทำการขอทาน โดยผู้ที่จะแสดงความสามารถต้องแจ้งเพื่อขอมีบัตรประจำตัวผู้ที่แสดงความสามารถ และเมื่อจะไปแสดง ณ สถานที่ใด ต้องไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในพื้นที่นั้น, มุ่งเน้นการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ที่ทำการขอทานไม่ให้กลับมากระทำการขอทานซ้ำอีก, กำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากระทำต่อหญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วย โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบของคณะกรรมการควบคุมการขอทาน
