‘วิษณุ’กินข้าวสื่อ เล่าประวัติทำเนียบ ครม.เกรียงศักดิ์ถกนาน-ชวนเปิดกว้าง-แม้วเบรกจ้อ

‘วิษณุ’ร่วมรับประทานอาหารกับสื่อฯ คุยประวัติภายในทำเนียบ พร้อมเผยการทำงานของรัฐบาลในอดีต

วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ทำเนียบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและพูดคุยกับสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1

นายวิษณุกล่าวถึงการเขียนข่าวของสื่อมวลชนเรื่องการใช้คำ เช่น ดัน หรือเมิน ซึ่งสามารถอาจแสดงความหมายได้หลายแบบ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้ชี้แจงว่า เพื่อสื่อสารให้ผู้อ่านได้เข้าใจง่ายขึ้น และด้วยเนื้อที่การเสนอข่าวที่มีจำกัด ส่วนการเสนอข่าวที่รวดเร็ว เนื่องจากปัจจุบันสื่อมวลชนได้นำโปรแกรมไลน์มาใช้ในการส่ง และติดต่อข่าว ขณะที่นายวิษณุอยากให้โฆษกแต่ละกระทรวง นำวิธีการทำงานของสื่อมวลชนมาปรับใช้ เพื่อจะได้ให้การทำงานของโฆษกกระทรวงมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น มีการสัมภาษณ์แหล่งข่าวที่เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ที่กรุงเทพฯจะต้องรับทราบข้อมูลได้ทันที
นายวิษณุยังกล่าวถึงที่มาของตึกนารีสโมสรว่า เนื่องจากสมัยก่อนภริยาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเข้ามาใช้ตึกบ่อยครั้ง พร้อมยังระบุถึงคำร่ำลือเสียงดนตรีไทยในช่วงดึกภายในตึกนารีสโมสรด้วยว่า ในสมัยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีได้สั่งคนไปจับตาดูสถานการณ์จึงพบข้อเท็จจริงว่า นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้อาศัยช่วงเวลาดังกล่าวซ้อมตีระนาด

นอกจากนี้ นายวิษณุกล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีการประชุมยาวนานที่สุดนั้น คือรัฐบาลสมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ตั้งแต่ 08.00-00.00 น. เพราะว่าในช่วงเวลา 21.00 น. ได้ให้เจ้าหน้าที่ซื้อข้าวมันไก่มิดไนท์ไก่ตอนประตูน้ำมารับประทาน ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีที่สั้นที่สุดคือสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากไม่ให้คนที่เห็นด้วยพูด และคนไม่เห็นด้วยให้ไปหารือกันภายหลัง สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เปิดโอกาสมากที่สุดคือสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เนื่องจากเป็นรัฐบาลผสม และเปิดโอกาสให้พูดทุกพรรคและทุกคน เพื่อไม่ให้ไปพูดคุยในภายหลัง อีกทั้งในสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ไม่ได้เปิดโอกาสให้พูดแต่อย่างใด และรัฐบาลที่สั้นที่สุด คือสมัยรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร ในช่วงการปฏิวัติรัฐประหารของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช.

Advertisement

ขณะเดียวกัน นายวิษณุยังกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในอดีตว่า มีการประชุมคณะรัฐมนตรีในห้อง 301 ของตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังมีการต่อเติม ชั้น 4 และ 5 เนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัยจึงย้ายไปประชุมที่ตึกเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพราะมีการสร้างตึกขึ้นมาใหม่ ต่อมาได้มีปัญหาความสูงคณะรัฐมนตรีแต่ละท่าน เช่น นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ และนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นต้น ดังนั้น จึงย้ายกลับมาประชุมที่เดิมในสมัยนายชวน หลีกภัย

ส่วนเรื่องมาตรการถามคำถามที่สื่อมวลชนจะต้องระบุชื่อและสังกัดนั้น นายวิษณุกล่าวว่า เนื่องจากจะได้ให้คำตอบตรงกับความต้องการของแต่ละสำนักข่าว เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ชาวต่างชาติอ่าน

ด้านพลเอกวิลาศกล่าวถึงมาตรการจัดระเบียบทำเนียบรัฐบาลว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นห่วงถึงมาตรการดังกล่าว พร้อมทั้งจะมีแนวคิดว่าจะสร้างอาคารจอดรถขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาความหนาแน่นของรถยนต์ภายในทำเนียบรัฐบาล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image