สาวชาวลาวฆ่าเจ้าของร้านโชห่วยเมียอดีต ผกก.ชิงทรัพย์
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 มีนาคม ร.ต.อ.ธานินทร์ สุดไชย พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในร้านสยามมาร์ท จำหน่ายสินค้าโชห่วย เลขที่ 51 หมู่ 2 ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา บุญเมือง ผกก.สภ.บ้านแพรก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สมาคมอยุธยารวมใจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายในห้องครัวพบศพนางเกศินี ชูตระกูล อายุ 55 ปี นอนตะแคงเสียชีวิต จมกองเลือดสวมเสื้อสีแดง ผ้าถุงสีดำ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดจำนวนหลายแผล ใกล้กันพบเตาแก๊สไม่ได้ติดไฟ มีกระทะตั้งอยู่ภายในมีไข่ตอกใส่ไว้ ใกล้ศพพบมีดปลอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือด 1 เล่ม มีดปลอกผลไม้เปื้อนเลือด ยาวประมาณ 4 นิ้ว หักจากด้าม 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทองรูปพรรณยังอยู่กับตัวผู้เสียชีวิต
ตรวจสอบภายในลิ้นชักโต๊ะเก็บเงินพบมีร่องรอยถูกรื้อค้น รอยเลือดหยดเป็นทางไปจนถึงหน้าร้าน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่ภายในร้านกับ ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงสาวชาวลาว อายุ 18 ปี จนช่วงบ่าย เห็นหญิงสาวชาวลาวเดินมาเรียกผู้ตายเข้าไปหลังร้าน จากนั้นหญิงสาวชาวลาวได้ออกมาจากในครัวตรงมาที่ลิ้นชักหยิบเงินสดจากลิ้นชักก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป
สอบสวน พ.ต.อ.คณธัช ชูตระกูล อายุ 62 ปี อดีต ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองออกไปทำธุระนอกร้าน จนช่วงเย็นกลับมาที่บ้านเห็นประตูร้านเปิดอ้าออกรู้ทันทีว่าเกิดความผิดปกติขึ้น จึงรีบเข้าไปดูในร้าน พบรอยเลือด และตามรอยเลือดจนพบภรรยาถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนลูกจ้างหญิงสาวชาวลาว มีชื่อว่า น.ส.นาง อายุ 18 ปี เพิ่งจะมาทำงานที่ร้านได้ประมาณ 1 เดือน เป็นคนทำงานขยันขันแข็งดีไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่เคยเตือนภรรยาแล้วว่าไม่ให้รับคนงานต่างชาติมาทำงานเพราะตนเองเคยทำคดีลูกจ้างชาวต่างชาติทำร้ายนายจ้าง ฆ่านายจ้าง แต่ภรรยาเห็นว่าเป็นเด็กคงไม่มีอะไรไม่คิดว่าจะมาถูกฆ่าแบบนี้ ส่วนเงินสดที่อยู่ในลิ้นชักไม่ทราบจำนวนแน่ชัด แต่มีจำนวนมากพอสมควร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า หญิงสาวชาวลาวได้วางแผนประทุษร้ายต่อทรัพย์ผู้ตาย วันเกิดเหตุอยู่กันเพียงตามลำพัง จึงทำทีทำกับข้าวทอดไข่ จุดเตาแก๊สไม่ติด มาเรียกผู้ตายให้เข้าไปดูพอสบโอกาสได้ใช้อาวุธมีดทำครัวกระหน่ำแทงผู้ตายจำนวนหลายแผลก่อนที่จะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายตามสถานีรถไฟ ท่ารถ ตามจุดต่างๆ แต่ยังไม่พบตัว
