กรมป่าไม้จับมือ 5 ประเทศลุ่มน้ำโขง สร้างโมเดลลดความจนให้คนอยู่ในป่า

นายอรรถพล เจริญชันษา ว่าที่อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมสัมมนา ณ เมืองผู่เอ่อ มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนประเทศในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม เข้าร่วม มีการนำเสนอข้อมูลภาพรวมของแต่ละประเทศ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นในประเด็นการลดปัญหาความยากจนให้ประชาชนในพื้นที่ป่าไม้

ว่าที่อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนำเสนอผลการดำเนินงานหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าโดยการจัดตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปก.พป.) ซึ่งทำให้ในช่วงการบริหารงานของ คสช. สามารถรักษาพื้นที่ป่าไม้ให้คงที่ ปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าไปพร้อมๆ กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในป่า

“เราได้เสนอโครงการที่สำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทย 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน การจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวมเพื่อให้ชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าหรือพื้นที่ของรัฐอื่นๆ ได้อาศัยอยู่อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขของแต่ละบุคคลและพื้นที่ โดยที่ดินยังเป็นของรัฐ กำหนดพื้นที่อยู่อาศัยและทำกินที่ชัดเจนในลักษณะแปลงรวม ทั้งนี้ ผู้ที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมโครงการไม่รวมถึงผู้ที่เป็นนายทุนและผู้ที่เข้ามาบุกรุกป่าใหม่ หลังปี 2557 ” นายอรรถพล กล่าว

Advertisement

ว่าที่ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า 2. โครงการจัดการป่าชุมชน มีหลักการที่ว่าให้คนที่ดูแลป่าได้ประโยชน์จากการดูแลป่า โครงการจัดการป่าชุมชนช่วยลดปัญหาของการตัดไม้ทำลายป่า และช่วยในการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้คนในหมู่บ้าน โดยผลการศึกษาพบว่า ป่าชุมชนในประเทศไทย 1 แห่ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ให้คนในหมู่บ้าน เฉลี่ยประมาณ 1 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ป่าชุมชนยังมีส่วนช่วยในการกักเก็บคาร์บอน กักเก็บน้ำในดิน ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดทำ พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. … เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการป่าชุมชน

นายอรรถพล กล่าวว่า และ 3. โครงการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้มีพื้นที่ป่าเศรษฐกิจร้อยละ 15 ของพื้นที่ประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ ในยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดให้มีพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่าร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ ประเทศไทยจึงสนับสนุนให้มีการปลูกไม้มีค่าทางเศรษกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรสวนป่า อีกทั้งเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าและแก้ปัญหาการตัดไม้ในพื้นที่ป่า โดยปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายในการปรับปรุงกฎหมายกฎหมายป่าไม้ และจัดทำระบบการรับรองไม้ (e-Tree) เพื่อเป็นการลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกกับเกษตรกรสวนป่า นอกจากนี้ กรมป่าไม้ยังสนับสนุนกล้าไม้ให้กับผู้ที่สนใจปลูกต้นไม้ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านกล้า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image