ผบ.มทบ.38 ชี้ “สิรินทร” ไม่ใช่ตัวการแพร่ขันแดง บ่นไม่สบายใจ – สั่งล่าต้นตอคลิปเพลง “ขันแดงแสลงใจ” ด่า คสช. ชี้เปลี่ยนแผนปรับทัศนคติเป็นอบรมนักการเมืองให้ช่วย “รับร่าง รธน.” แทน
เมื่อเวลา 14.00 วันเดียวกัน(9 เมษายน 2559) นางสิรินทร รามสูต อดีต ส.ส.น่าน เขต 1 พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยนายทรงพล อัชวากุล ทนายความและนายกฤษณะ ยอดหงส์ เลขานุการของนางสิรินทร เดินทางเข้าพบ พล.ต.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบในพื้นที่ มณฑลทหารบกที่ 38 (กกล.รส.มทบ.38) ที่ค่ายสุริยพงษ์ตามนัด โดยจอดรถแวะลงหน้าค่ายและนำพานดอกไม้สักการะพระอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ อดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน จากนั้นเข้าพบปะพล.ต.ชัยณรงค์ ที่ห้องรับรอง อาคาร มทบ.38 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมสังเกตการณ์และบันทึกภาพเหมือนกับกรณีนายชลน่าน ศรีแก้ว เข้ารายงานตัวเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นกันเองและให้เกียรติกัน และชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปฏิบัติตามคำสั่งคำสั่งหน่วยเหนือ จำเป็นต้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฎว่ามีผู้ส่งขันแดงที่ใช้เป็นเครื่องมือเผยแพร่ให้เกิดตระเตรียมการ เคลื่อนไหวและปั่นป่วน แตกแยกทางความคิด ส่งมาจากกรุงเทพฯไปทั่วภาคเหนือไม่ใช่ที่น่าน ดังนั้นนางสิรินทรอาจไม่ใช่ตัวการกระทำความผิด แต่เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนเหมือนอดีต ส.ส. คนขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คสช. ส่วนกลางอีกที
“เหมือนกับตั้งวงเล่นไพ่แล้วถูกจับ เจ้าของบ้านไม่อยู่แต่ก็ต้องโดนข้อหาไปด้วย” พล.ต.ชัยณรงค์ กล่าว ด้านนางสิรินทรสอบถามถึงข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ตกลงกันแล้วจะไม่เผยแพร่ข่าว รวมถึงข่าวที่จะให้พวกตนเข้าโรงเรียนอบรมหรืออบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำการสร้างชาติอย่างสร้างสรรค์ พล.ต.ชัยณรงค์ตอบว่า เป็นการเชิญมาพูดคุย ทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คสช.เองก็ไม่สบายใจที่มีคลิปเพลง “ขันแดงแสลงใจ” เผยแพร่ออกมาในระยะนี้และกำลังล่าตัวผู้หญิงดังกล่าวที่ด่า คสช. อยู่ ส่วนนางสิรินทรและอดีตส.ส.น่านอีก 2 คนยังไม่เข้าข่ายกลุ่มการเมืองที่ไม่ยอมรับ คสช. แต่อาจตกเป็นเหยื่อของกระแสสื่อมวลชน นางสิรินทรจึงขออนุญาตนำคำตอบดังกล่าวไปเผยแพร่ชี้แจงผู้สอบที่ถามตนประเด็นนี้มาจำนวนมาก
ขณะที่พล.ต.ชัยณรงค์กล่าวต่ออีกว่า อาจเชิญและขอความร่วมมือผู้สมัคร ส.ส. ต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์รัฐธรรมนูญ แบ่งกลุ่มนักการเมืองและผู้นำทางความคิดเป็นภาค ใช้เวลา 7 วันไปร่วมแสดงความคิดเห็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่มีประโยชน์ที่จะชี้นำคว่ำรัฐธรรมนูญ เพราะเสียเวลาโรดแม็บ
