ญาติเหยื่อสลายชุมนุม จัดกิจกรรมรำลึก-จุดเทียนขาวแดง วางกุหลาบ 6ปีเหตุการณ์10เมษา
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10เมษายน ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ผู้สื่อข่าวรายงาน กลุ่มเมล็ดพริก และกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ได้เริ่มจัดงานรำลึก 6 ปีเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 โดยได้ให้ประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมถือแผ่นกระดาษที่มีชื่อผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยเทียนและดอกกุหลาบ จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกันเดินขบวนไปตามจุดต่างๆ ที่มีผู้เสียชีวิตพร้อมชูรายชื่อดังกล่าวและตะโกนว่า ที่นี่มีคนตาย สลับกับการร้องเพลงนักสู้ธุลีดินตลอดทั้งเส้นทาง โดยได้เดินไป 3 จุด คือ บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา,สี่แยกคอกวัวฝั่งบริเวณถนนข้าวสาร และสิ้นสุดที่เกาะกลางถนนสี่แยกคอกวัว โดยทั้ง 3 จุดนี้ ทางกลุ่มได้วางรายชื่อตามบริเวณที่เสียชีวิต จุดเทียนแดง-ขาวรำลึกพร้อมวางดอกกุหลาบ และอ่านบทกวีรำลึก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกตลอดการจัดกิจกรรม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่มีการจัดกิจกรรม บริเวณดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเริ่มต้นเฉลิมฉลองวันสงกรานต์เช่นกัน โดยเดินขบวนคนละฟากของถนนราชดำเนิน
เสาวลักษณ์ โพธิ์งาม ตัวแทนกลุ่มเมล็ดพริก กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ก็เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ขณะนี้ผ่านมา 6 ปีแล้วผู้กระทำความผิดก็ยังไม่ได้รับการลงโทษแต่อย่างใด ทางกลุ่มก็อยากจะเรียกร้องให้มีความยุติธรรมเกิดขึ้นในเร็ววัน และอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศชาติ เรียนรู้ว่าเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับ 10 เมษายนไม่ควรที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไป วันหนึ่งเชื่อว่าความจริงจะต้องปรากฎ คนกระทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษ จะรอเวลานั้นด้วยความอดทน สรุปความผิดพลาดและก้าวเดินต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป
ต่อมาเวลา 19.00 น. บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต เมษา-พฤษภา 53 ได้จัดกิจกรรมรำลึกผู้เสียชีวิต โดยมีการตั้งโต๊ะแดงพร้อมรูปภาพของ นายมนต์ชัย แซ่จอง และ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพช่าวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานด้วย รวมทั้ง นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิต ที่วัดปทุมวนาราม นายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ นิว ตัวแทนกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา และ นายปกรณ์ อารีกุล จากกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
ทั้งนี้ นายสิริวิชญ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันครบรอบ 6 ปี เหตุการณ์ความรุนแรงและโศกนาฏกรรมทางการเมืองของประเทศไทยอีกเหตุการณ์หนึ่ง งานวันนี้มาเพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมสืบสาน สานต่อ เจตนารมณ์ในการต่อสู้กับความอยุติธรรม และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป
นายปกรณ์ กล่าวว่า 6 ปีที่แล้วประชาชนมากมายต้องเสียชีวิต แต่จนถึงวันนี้ เวลานี้ประชาธิปไตยที่พวกเขาต่างต่อสู้ต่างเสียชีวิตก็ยังไม่ได้มา เวลาที่ผ่านมาเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองหลายต่อหลายครั้งมีประชาชนถูกเข่นฆ่ามากมาย ทั้งหมดก็เพื่อเพียงโอกาสในการใช้ปากกา ใช้หัวใจ ในการเลือกผู้ปกครองของตนเอง
“ในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะมีการลงประชามตินี้ เป็นอีกวันหนึ่งที่เราต้องออกไปใช้สิทธิเสียงที่เรามี ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนมีวิจารณญาณในการตัดสินใจในการโหวต และรู้ว่าต้องโหวตอะไรเพื่ออนาคตของประเทศ” นายปกรณ์ กล่าว
จากนั้น นายปกรณ์ ได้ตะโกนพร้อมกับประชาชนว่า เราจะไม่ตายอีกต่อไป และร่วมยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1 นาที
ต่อมามีพิธีรดน้ำดำหัวแก่ นายวสุ สุริยะแก่นทราย ผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบและบาดเจ็บจนพิการจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้ และรดน้ำแก่หน้าพวงมาลัยที่ตั้งอยู่หน้ารูปของ นายมนต์ชัย และ นายฮิโรยูกิ จากนั้นได้มีการรำจุดเทียนขาวรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะเสร็จสิ้นกิจกรรมทั้งหมด
