จำเป็นต้องจดจำนามของ นายแก้วสรร อติโพธิ จำเป็นต้องจดจำนามของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์
มิใช่เพราะ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ มีบทบาทเมื่อ 14 ตุลาคม 2516
มิใช่เพราะ นายแก้วสรร อติโพธิ มีบทบาทเป็นอย่างสูงในความพยายามก่อตั้งขบวนการ “ไทยสปริง”
หาก 2 คนนี้เคยมีบทบาท “ร่วม” กับ “รัฐประหาร”
นายแก้วสรร อติโพธิ อาจเข้าไปมีส่วนตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ “คตส.”
ตรวจสอบการทุจริต “ระบอบทักษิณ”
และก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 นายแก้วสรร อติโพธิ ก็จัดตั้งขบวนการ “ไทยสปริง” ขึ้น
เป้าหมายยังอยู่ที่ “ระบอบทักษิณ”ไม่แปรเปลี่ยน
ยิ่ง นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ยิ่งมีความเด่นชัดในบทบาท การเคลื่อนไหว โดยเฉพาะก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เพราะเขาเป็น “หมายเลข 1” ใน “กปปส.”
เพราะเขาเคยได้รับตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ”สนช.”กระทั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายการเมืองด้วยซ้ำ
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ จึงมิใช่พวก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายแก้วสรร อติโพธิ จึงมิใช่พวกเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร มิใช่พวกเดียวกับ พรรคเพื่อไทย และมิใช่พวกเดียวกับนปช.
2 คนนี้เสนอ “ภาพลบ” อันดำรงอยู่ใน”ร่าง”รัฐธรรมนูญ
2 คนนี้เสนอ “ภาพลบ” อันเนื่องแต่ “คำถามพ่วง” จากสปท. สนช.ในการลง”ประชามติ”
ยากอย่างยิ่งที่จะชี้นิ้วกล่าวหาว่า “บิดเบือน”
จุดอ่อน จุดอับอันจะเกิดขึ้นหากร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่าน”ประชามติ”เป็นจุดอ่อน จุดอับภายหลัง “การเลือกตั้ง”
ส.ว. “ลากตั้ง” จำนวน 250 คนอาจเป็น “หลักประกัน”
“สภาประชุมร่วมตั้งนายกรัฐมนตรี นี่มันเป็นสภาพ่วงตามรัฐธรรมนูญพ่วงเท่านั้น ประชุมแล้วก็ไม่ทำงานอีก”
เป็นข้อสังเกต 1 อันมาจาก นายแก้วสรร อติโพธิ
“อาจได้นายกรัฐมนตรีที่มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่แน่นหนาอะไร ได้แต่อาศัยเสียงส.ว.ในสภาช่วยค้ำให้ได้เป็นเท่านั้น แต่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ส.ว.ก็ช่วยค้ำตำแหน่งให้ไม่ได้”
“เสนองบประมาณมาก็ถูกคว่ำ กฎหมายสำคัญก็ไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีอย่างนี้ไม่มีทางอยู่ได้นานเลย มีแต่ “ส.ว.แสนดี” นักเปลี่ยนผ่านเท่านั้นที่จะอยู่ได้นาน มันเป็นกลไกที่ผิดหลักวิชามาก”
เท่ากับเสนอ “คำถามพ่วง” เพื่อ “หลอกต้ม”
หลอกต้มโดยเอาตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” มาเป็นเหยื่อล่อ แต่เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งแล้วก็ไม่อาจอยู่ได้นาน
แต่คนที่จะอยู่ได้นาน คือ ส.ว.”ลากตั้ง”จำนวน 250 คน
ข้อสังเกตและบทสรุปซึ่งมาจาก นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และมาจาก นายแก้วสรร อติโพธิ จะเข้าข่าย “บิดเบือน” หรือไม่
ไม่น่าจะใช่
นายแก้วสรร อติโพธิ เคี่ยวกรำมาทางด้าน “กฎหมายมหาชน” สอนหนังสือมาอย่างยาวนาน
เคย “ยกร่าง”รัฐธรรมนูญมาแล้ว
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ แม้จะจบปริญญาตรีทางด้านเกษตรแต่ก็เป็นดุษฎีบัณฑิตในทางรัฐศาสตร์
จะกล่าวหาว่าท่าน”บิดเบือน”ได้ลงคอละหรือ
