| ที่มา | นสพ.มติชน |
|---|
อจ.ราชภัฏบุรีรัมย์ โวยถูกอดีต น.ศ.ศิลปากร ลอกวิทยานิพนธ์สมัยเรียน ป.โท ม.ขอนแก่น อธิการบดี มข.ร่อนหนังสือจี้ ม.ศิลปากรถอนปริญญาบัตร ขณะที่อธิการฯศิลปากรรับตรวจสอบแล้ว ลอกจริงแจงอยู่ในขั้นตอนลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ โลกออนไลน์มีการแชร์หนังสือมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ลงชื่อโดย นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. ส่งถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ทวงถามความคืบหน้าการลงโทษอดีตนักศึกษาคณะโบราณคดี มศก. ที่คัดลอกผลงานวิทยานิพนธ์ของอดีตนักศึกษาปริญญาโท คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. โดยหนังสือระบุว่า ด้วย มข.ได้รับแจ้งจาก น.ส.จตุพร ดอนโสม ซึ่งสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. พ.ศ.2551 โดยได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “การสร้างอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของคนไทยเชื้อสายเวียดนามบ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม” ว่า ถูกนางสาว ว. (นามสมมุติ) ซึ่งได้รับอนุมัติปริญญาจากภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มศก. เมื่อ พ.ศ.2553 ด้วยการทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “ทุนทางสังคมและวัฒนธรรมกับการปรับตัวธุรกิจร้านอาหารไทยเชื้อสายเวียดนามในเขตเทศบาลเมืองนครพนม” คัดลอกวิทยานิพนธ์จริงในระดับขั้น “รุนแรง” ทั้งนี้ น.ส.จตุพรแจ้งว่าการเพิกถอนปริญญาบัตรนั้นจะต้องให้ มข.ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้ร้องเพิกถอน ดังนั้น มข.จึงขอเรียนถามว่าปัจจุบัน มศก.ได้ดำเนินการเพิกถอนปริญญาบัตรนางสาว ว. แล้วหรือไม่ ประการใด ทั้งนี้โปรดแจ้งให้ มข. ทราบด้วย
น.ส.จตุพร ดอนโสม อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) บุรีรัมย์ กล่าวว่า ทราบว่าวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโท จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. ของตัวเองถูกคัดลอก ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2558 ดังนั้นจึงได้ติดต่อไปยังภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มศก. ในฐานะผู้อนุมัติปริญญาให้ตรวจสอบ ซึ่งทางภาควิชามานุษยวิทยาได้ตั้งกรรมการตรวจสอบและพบว่ามีการคัดลอกจริง ถือเป็นความผิดร้ายแรง ถึงขั้นต้องเพิกถอนปริญญา และได้ส่งหนังสือกลับมา ว่าต้องให้ มข. ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้ร้องเพิกถอน ซึ่งนายกิตติชัยได้ทำหนังสือถึงอธิการบดี มศก. เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ขณะเดียวกันตนในฐานะเจ้าของผลงานได้ติดต่อไปยังบัณฑิตวิทยาลัยของ มศก. อีกทางหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ได้รับคำตอบเพียงว่าจะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมสภา มศก. และล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงนายกสภา มศก.อีกครั้ง หากเรื่องยังเงียบอีก ก็คงต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต่อไป
“อยากทำให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐาน เพราะในแวดวงวิชาการ การคัดลอกผลงานถือว่าผิดร้ายแรง หากรับราชการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ก็ต้องให้ออก หรือเพิกถอนปริญญา เรื่องนี้เสียหายกันหมด ดิฉันร้องเรียนมาระยะหนึ่ง แต่เรื่องก็หายเงียบ จึงไม่แน่ใจว่า มศก.กลัวอะไร อยากให้เร่งแก้ไข เพราะเป็นวิทยานิพนธ์ในระดับบัณฑิตศึกษาซึ่งถือว่าสำคัญ ส่วนตัวไม่มีอะไรกับผู้คัดลอก แต่ด้วยความเป็นนักวิชาการยืนยันว่าเรื่องนี้คงยอมไม่ได้แน่นอน” น.ส.จตุพรกล่าว
ด้านนายชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) กล่าวว่า ภายหลังมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบว่ามีแนวโน้มคัดลอกจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งกองนิติการ มศก. เพื่อพิจารณาลงโทษตามขั้นตอนต่อไป ที่ล่าช้าซึ่งอาจจะไม่ทันใจผู้เสียหาย ก็เนื่องจากมหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อป้องกันการหลุดมือหรือถูกฟ้องกลับ ดังนั้นเรื่องนี้จึงอาจล่าช้าไปบ้าง ส่วนที่ถามว่าโทษจะถึงขั้นเพิกถอนปริญญาบัตรหรือไม่นั้น ตนตอบแทนกองนิติการไม่ได้ เพราะเมื่อกองนิติการได้คำตอบอย่างไรแล้ว ยังต้องส่งให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอีก เพราะการเพิกถอนปริญญาบัตรต้องดำเนินการโดยสภามหาวิทยาลัย
เมื่อถามต่อว่า คาดว่ากองนิติการจะพิจารณาแล้วเสร็จเมื่อไร นายชัยชาญกล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กองนิติการมีเพียงหยิบมือ ขณะที่ต้องดูแลเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งขณะนี้ มศก.เตรียมการออกนอกระบบราชการ หรือมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ จึงต้องทำกฎหมายลูกซึ่งต้องดำเนินการออกกฎหมายลูกกว่า 50 ฉบับ อย่างไรก็ตามตนจะเร่งกองนิติการ ทั้งนี้ตนได้เจออธิการบดี มข.ในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้ชี้แจงด้วยวาจาไปแล้วว่า กองนิติการกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทางอธิการบดี มข.ก็บอกว่าเข้าใจและบอกว่าได้ทำหนังสือทวงถามมา
เมื่อถามต่อว่า มข.ทำหนังสือทวงถามมาตั้งแต่ปี 2558 ขณะนี้ปี 2559 แล้ว นายชัยชาญกล่าวว่า ก็แค่ปีเดียว ยืนยันว่าเรื่องนี้มหาวิทยาลัยไม่ช่วยแน่นอน จะว่าไปตามเนื้อผ้า ช่วยแล้วจะเกิดประโยชน์อะไร ไม่เกิดประโยชน์ หลายกรณีที่เกิดขึ้น เราก็ว่าไปตามเนื้อผ้า ไม่เคยช่วย ขอให้สบายใจได้
