ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ใคร “ลอยแพ” ใคร

“หลังจากอดีต ส.ส.ของพรรคแถลงถึงความไม่โปร่งใสในการทำงานของกรุงเทพมหานคร ทางแกนนำพรรคได้พยายามประสานงานติดต่อกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถึง 3 เดือน เพื่อร่วมหาแนวทางแก้ปัญหา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ พรรคจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบความไว้วางใจสนับสนุนผู้สมัครของพรรคให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงขอแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าการบริหารกรุงเทพมหานครจากนี้ไป ถือเป็นการดำเนินการโดยเอกเทศ และไม่ขอรับผิดชอบการดำเนินการของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เนื่องจากพรรคไม่สามารถใช้ระบบและกลไกของพรรคในการช่วยสนับสนุนติดตามตรวจสอบการบริหารงานของ กทม.ได้ และกราบขอโทษพี่น้องประชาชนชาว กทม.มา ณ โอกาสนี้ และขอบคุณ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่มีผลงานที่ดีให้กับพรรค กทม.และประเทศชาติ รวมถึงขอให้กำลังใจการทำงานทุกสิ่งเพื่อประชาชน”

คือถ้อยความเป็นทางการจากคำของ “นายจุติ ไกรฤกษ์” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ตั้งโต๊ะแถลงกับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา

“นายองอาจ คล้ามไพบูลย์” ที่นั่งร่วมโต๊ะแถลงด้วยขยายความว่า “ทางพรรครู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะต้องมีความชัดเจนต่อสิ่งที่กระทบกับความเชื่อมั่นในการดำเนินการของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคกังวลเรื่องความโปร่งใส ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้การสนับสนุนพรรค ซึ่งได้มีการสอบถามกรรมการบริหารพรรคก่อนตัดสินใจในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามมีกรรมการฯบางส่วนไม่เห็นด้วย แต่คนส่วนมากเห็นด้วย”

อันเป็นที่มาของพาดหัวข่าวในสื่อต่างๆ ในเวลาต่อมาว่า “ประชาธิปัตย์ตัดขาดสุขุมพันธุ์”

Advertisement

แน่นอนย่อมหมายถึง “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครผู้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาในนามผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และขณะนี้ยังมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากไม่สามารถประชุมพรรคเพื่อลงมติปลดออกได้ เพราะ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือ “คสช.” ไม่อนุญาตให้มีการประชุมพรรคการเมือง

หากย้อนประวัติศาสตร์การเมืองไปดู นี่เป็นครั้งแรกที่มีเรื่องราวแบบนี้

คล้ายกับว่าเหตุผลหลักคือ “ประชาธิปัตย์” ทนไม่ไหวกับเรื่องราวการทุจริตใน กทม.กระทั่งอดีต ส.ส.ของพรรคต้องมาแถลงข่าวเปิดโปงและเรียกร้องให้ตรวจสอบเอง ทว่า “ผู้ว่าราชการ กทม.” ซึ่งเป็นคนของพรรคกลับใช้ “ความสงบสยบความเคลื่อนไหว”

Advertisement

ไม่ใช่แค่ทำตัวเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” เท่านั้น แต่ยังไม่รับที่จะสังฆกรรมกับคนของพรรค

แม้กระทั่ง “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โทรศัพท์ไปหายังไม่รับสาย ไปหาที่ “วังสวนผักกาด” ซึ่งเป็นที่พำนัก ก็ไม่อยู่ต้อนรับ

สารพัดข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ไม่มีการแสดงสัญญาณว่ารับรู้อะไรด้วยจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์

คล้ายกับว่าก่อนที่ “ประชาธิปัตย์” จะลอยแพ “รองหัวหน้าพรรค” ที่ชื่อ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” นั้น

“ผู้ว่าราชการ กทม.” ได้ตัดขาด “พรรคประชาธิปัตย์” ภายใต้การนำของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ไปก่อนแล้ว

โดยที่แม้ไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงให้เอิกเกริก

แต่มีปฏิบัติการ “ไม่ต้อนรับ-ไม่ร่วมสังฆกรรม” อย่างชัดเจนเปิดเผย

ไปก่อนหน้าแล้ว

ด้วยเหตุผลที่เป็นเสียงเล่าลือกันให้แซ่ด ค้นหาได้ไม่ยากจากแหล่งข้อมูลต่างๆ

เพียงแต่ไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image