วันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.พรชัย บุญรอด ผกก.สภ.บ้านผือ , นพ.ทวีรัตน์ ศรีกุลวงศ์ ผอ.รพ.บ้านผือ พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานอุดรธานี ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.อุดรธานี พนักงานสอบสวนจาก สภ.บ้านผือ ทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่ ร.13 พัน 2 และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างเมธาธรรมสถาน ลงพื้นที่ “สุสานเผานั่งยาง” ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขือน้ำ บริเวณโคกเฒ่าคำภา บ.คำบอนเวียงชัย ม.3 ต.หนองแวง อ.บ้านผือ เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานวัตถุพยานเพิ่มเติม หลังจากที่มีการเก็บหลักฐานไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยแยกทีมเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในจุดเดิม 16 จุด โดยขุดดินพร้อมใช้เครื่องตรวจโลหะ จนพบวัตถุคล้ายปลอกกระสุนปืนลูกซอง ฝาขวดสุรา ชิ้นส่วนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าเป็นซากของโทรศัพท์มือถือ เศษเหรียญเงินและเศษจุกเติมลมยางรถยนต์ ขณะที่กำลังอีกส่วนตรวจในรัศมี 100 เมตร พบจุดเผาเพิ่มอีกรวมเป็น 23 จุด
ต่อมาได้มีชาวบ้านซึ่งเป็นญาติของผู้สูญหาย รวมถึงบุตรชายของนางบังอร และญาติของผู้สูญหายรายอื่น อย่างนายบุญมี ถิ่นแก้ว อายุ 55 ปี และ น.ส.สุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล อายุ 35 ปี ราษฎร ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู มาตามหานายคำปุ่น ถิ่นแก้ว อายุ 53 ปี น้องชายนายบุญมี ที่ได้หายตัวไป ตั้งแต่ปี 2554
น.ส.สุภัสสรณ์ เปิดเผยว่า ตนมาตามข่าวซึ่งคิดว่าอาจจะมีศพนายนายคำปุ่น ซึ่งเป็นอาตนรวมอยู่ด้วย โดยช่วงปี 54 มีชายฉกรรจ์ 2 คน มาหานายคำปุ่นที่บ้าน ซึ่งไม่ไกลจากบริเวณนี้มากนัก ด้วยรถกระบะสีดำไม่ทราบยี่ห้อ-ทะเบียน มาบอกให้ไปช่วยซ่อมถนน ไม่ทราบว่าที่ไหน นายคำปุ่น ก็ขึ้นรถไปกับชายกลุ่มนั้น หลังจากนั้นนายคำปุ่นก็หายไป ไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลย
พล.ต.ต.พีรพงษ์ เปิดเผยว่า มีพยานระบุว่าได้ยินเสียงปืนหลายครั้ง จึงเข้ามาเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ที่อาจจะพบกระสุน ปลอกกระสุน หรือหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม โดยจะทำการตรวจสอบทุกจุดที่พบ เบื้องต้นพบว่ามีจุดที่คาดว่าจะเป็นการเผาจากเดิม 16 จุด พบเพิ่มอีก 7 จุด รวมแล้ว 23 จุด ซึ่งมีร่องรอยการไหม้ที่แตกต่างกันไปตามกาลเวลา หลักฐานส่วนใหญ่ก็เป็นเศษกระดูกสิ่งมีชีวิต โดยจะส่งไปให้สถาบันนิติเวชวิทยา ตรวจสอบอย่างละเอียด ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
“ส่วนความคืบหน้าเบาะแสการแจ้งคนหายในพื้นที่ ได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.บ้านผือว่า ขณะนี้มีชาวบ้านมาให้ข้อมูลแล้ว 3 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ จ.อุดรธานี 2 ราย และอีกรายคือชาวบ้านที่ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก็ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปอีกว่าจะมีความคืบหน้ามากแค่ไหน ส่วนรายละเอียดอื่นนั้น พรุ่งนี้น่าจะรายงานได้สมบูรณ์หลังการประชุม วันนี้ก็เก็บหลักฐานทุกอย่างทุกชิ้น เพื่อรอให้ทางจังหวัดและชาวบ้านเข้ามาเตรียมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณในบริเวณนี้ต่อไป ” พล.ต.ต.พีรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.จะเดินทางเรียกประชุมตำรวจในส่วนที่เกี่ยวทำการประชุมสรุปข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด
