สุริยะใส ชี้ ขั้วอำนาจเก่า-แรงกดดันต่างประเทศ อาจเป็นปัจจัยทำปฎิรูปล้มเหลว

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.)
โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กแฟนเพจ ‘สุริยะใส กตะศิลา’ กล่าวถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ตนเห็นว่าสุดท้ายแล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน ก็ยังไม่มีใครรับประกันได้ว่าการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม หากลองนึกดูถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ เราก็ไม่รู้ว่าหน้าตาของร่างรัฐธรรมนูญที่จะมาแทนที่เป็นอย่างไร ฉบับไหน ใครร่างก็ไม่มีใครบอกได้ในวันนี้ ขณะเดียวกันถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านก็ไม่มีใครรับประกันได้อีกเช่นกันว่าโครงสร้างอำนาจของรัฐบาลหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร และจะตอบโจทย์ปฏิรูปที่บางเรื่องอาจเขียนไว้ดีในรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ๆกันอยู่เราก็คาดหวังการปฏิรูปได้น้อยจากนักการเมืองจำพวกนักเลือกตั้ง

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญอีกประการที่อาจทำให้การปฏิรูปกระท่อนกระแท่นและขาดความแน่นอนจนล้มเหลวอีกคือปัญหาการเมืองที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขั้วอำนาจเก่า กลุ่มเสียประโยชน์ ขั้วความขัดแย้ง ความแตกแยก การกดดันจากต่างประเทศ เริ่มส่งสัญญาณกลับมาอีกครั้ง หรือแม้แต่ระบบราชการที่ยังไม่เห็นการปฏิรูปในภาพรวม ปัจจัยเหล่านี้จะกลับมามีอิทธิพลเหนือรัฐบาล เหนือการเมืองอีกครั้ง การเมืองไทยก็จะยังจมอยู่ในวงจรแห่งความล้มเหลวเดิม ๆ

“คสช.ไม่ควรเอาปัญหาทุกเรื่องไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเมืองแบบไปตายเอาดาบหน้า ที่สำคัญปัญหาบางเรื่องอยู่นอกรัฐธรรมนูญ และไม่สามารถแก้ได้ด้วยรัฐธรรมนูญเสมอไป ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมการเมืองไทย และเป็นการเอาการเมืองออกจากความเสี่ยงในช่วงเปลี่ยนผ่านให้ได้มากที่สุด คือการทำการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ปฏิรูปในเรื่องสำคัญ ๆ และเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องรอรัฐธรรมนูญก็ทำได้”นายสุริยะใส กล่าว.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image