เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มนปช.เสนอให้เชิญสหประชาชาติ(ยูเอ็น)และสหภาพยุโรป(อียู)มาร่วมสังเกตการณ์การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ประชามติในโลกนี้ ไม่มีใครเขามาดูเพราะเป็นเรื่องภายใน ไม่ใช่การเลือกตั้ง ข้อเสนออย่างนี้ผิดตั้งแต่แรก ไม่มีใครเขาทำกัน แม้แต่การเลือกตั้งเองทางเจ้าของบ้านก็ต้องเชิญ ไม่ใช่คนข้างนอกอยากดูแล้วเข้ามาดูได้ โดยขณะนี้องค์กรระหว่างประเทศ ยังไม่มีหน่วยงานไหนแสดงความประสงค์ขอเข้าดูการทำประชามติ เพราะเขามีมารยาทพอ รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
เมื่อถามว่าบทลงโทษที่รุนแรงใน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะดึงให้องค์การระหว่างประเทศ เข้ามาร่วมสังเกตการณ์หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ไม่ เพราะกฎหมายคือกฎหมาย และประเทศทางตะวันตก เขาก็เคารพกฎหมายทั้งของบ้านเขาและของคนอื่น เมื่อเป็นเรื่องของกฎหมาย เขาก็จะไม่เข้ามายุ่ง เมื่อ พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้แล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตาม และขอถามว่า พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวทำให้ใครเสียหาย เจ็บปวด หากไม่ได้แสดงความคิดเห็น ตนไม่เคยคิดว่าจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็น เพราะรู้ว่าทิศทางที่กำลังจะเดินไป เป็นประโยชน์ ความปรารถนาดีต่างๆ ไม่เป็นพิษภัยกับใคร
เมื่อถามว่ากรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ระบุว่าสมควรมีองค์กรที่คานอำนาจกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาสังเกตการณ์เพื่อให้การทำประชามติมีความยุติธรรม นายดอนกล่าวว่า ก่อนที่รัฐธรรมนูญ ของแต่ละประเทศจะออกมา ไม่ใช่ทุกทุกประเทศที่จะทำประชามติ แต่ของเราถือว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษ เพราะตอนปี 49 ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำรัฐประหาร ก็ให้ทำประชามติกับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ด้วยเหตุนี้ คสช. เห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี และเป็นสุภาพบุรุษ ในลักษณะของทหารพัฒนา ที่ไม่ต้องการอยู่ในอำนาจยาวนาน จึงนำมาใช้บ้าง ซึ่งการทำประชามติครั้งนี้ก็ล้อมาจากครั้งนั้น โดยเรื่องนี้ได้พูดชี้แจงให้หลายประเทศฟังแล้ว ว่าบทบาททหารไทยเป็นอย่างไร
