เมื่อเวลา16.00 น. วันที่ 28 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2รอ.ในฐานะฝ่ายกฎหมาย คสช. นำตัวนางสาวณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือนัท นายนพเก้า คงสุวรรณ นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ หรืออ้วน นายโยธิน มั่งคั่งสง่า หรือโย นายธนวรรธน์ บูรณศิริ อายุ 22 ปี นายศุภชัย สายบุตร หรือ ตั๋ม อายุ 30 ปี นายหฤษฏ์ มหาทน อายุ 27 ปี และ นายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา หรือ ที อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร เลขที่ 24-32 /2559 ในข้อหา มาตรา116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มายังบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมตรวจร่างกายโดยแพทย์รพ.ตำรวจ ซึ่งมีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนอาชญากรรม พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รองผบก.ป. และพ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผกก.(สอบสวน)บก.ป. รวม8คน มาส่งให้พนักงานสอบวน บก.ป. ขณะที่นายชัยธัช รัตนจันทร์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเดียวกันนั้น เบื้องต้นทราบข้อมูลว่าอยู่ต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้ง8ราย ถูกควบคุมตัวมาถึง บก.ป.แล้ว เจ้าหน้าที่ทหารได้คุมตัวไปยังห้องประชุมปราศจากศัตรู ชั้น 3 เพื่อเริ่มขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ ภายหลังการสอบสวนเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปควบคุมตัวชั่วคราวที่ สน.พหลโยธิน เพื่อรอส่งตัวไปขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ ฝากขังในวันที่ 29 เมษายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างสอบปากคำเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เมื่อทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พยายามฝ่าแนวกั้นของทหารและตำรวจ เพื่อแสดงความจำนงจะเข้าร่วมการสอบปากคำ พร้อมกับอ้างว่ามีญาติของผู้ต้องหาที่ต้องการจะพบผู้ต้องหาด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันให้พบภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจร่างกายทำประวัติ สร้างความไม่พอใจให้กับทนายความจากศูนย์ทนายดังกล่าว
ต่อมาน.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ หนึ่งในผู้แทนทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ได้ขอเจรจาว่าขอให้ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะเลือกทนายความเอง ไม่ใช่ให้ตำรวจจัดหาทนายความมาให้ เป็นหลักการตาม ป.วิอาญา เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทางศูนย์ฯถูกเจ้าหน้าที่ทหารผลักดันออกมา เรายืนยันว่าจะขอความเป็นธรรม ว่าผู้ต้องหามีสิทธิเลือกทนายเอง เพราะเรามองว่ากระบวนการสอบสวนที่มีทนายความโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยผู้ต้องหาไม่ยินยอม ถือว่าเป็นการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง9คนนั้น พบว่าเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้ง9คนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานและการบริหารงานของรัฐบาล โดยใช้ถ้อยคำในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังต่อรัฐบาล มีความผิดด้านความมั่นคงของประเทศ โดยแผนผังเครือข่ายกลุ่มผู้ต้องหากระทำผิดต่อความมั่นคง มาตรา 116 ระบุนายศุภชัย สายบุตร เป็นอิดิเตอร์ หรือผู้ปรับแก้ข้อมูลของเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 24/2559 น.ส.ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์ ชาวจ.นนทบุรี เป็นหัวหน้าในการสร้างเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 25/2559 นายนพเก้า คงสุวรรณ เป็นอิดิเตอร์ เพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 26/2559 และเป็นผู้ดูแลเพจของเฟซบุ๊ก “Jatuporn Prompan” เฟซบุ๊กเพจ”Peace tv ” หมายจับศาลทหารเลขที่ 27/2559 นายธนวรรธน์ บูรณศิริ เป็นอิดิเตอร์ เพจ”เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 28/2559 นายโยธิน มั่งคั่งสง่า ชาวจ.นครปฐม เป็นแอดมินเพจ”เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 29/2559 นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรานันท์ ชาวจ.นนทบุรี อยู่ในทีมงานอัพโหลดรูปภาพข้อความ หมายจับศาลทหารเลขที่ 30/2559 นายกัณวิทธิ์ ตั้งบุญธินา ชาวจ.เชียงราย เป็นแอดมินเพจ”เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หมายจับศาลทหารเลขที่ 31/2559 นายหฤษฎ์ มหาทน เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเพจ”เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” และหมายจับศาลทหารเลขที่ 32/2559 นายชัยธัช รัตน์จันทร์ เป็นผู้รับคำสั่งจากผู้สั่งการใหญ่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง8คน ก่อนจะนำไปควบคุมตัวที่สน.พหลโยธิน จากนั้นจะนำตัวไปฝากขังศาลทหารในวันที่ 29 เมษายนนี้
