เมื่อวันที่ 24 มกรารม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสเรียกร้องให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)บัญญัติให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เว้นวรรคการเมือง 5 ปี ว่า มองได้หลายมุม หากจะบัญญัติเช่นนั้น อาทิ เหตุผลแรกเพื่อให้คสช.แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ต้องการวางแผนหรือวางระบบสำหรับตนเองในอนาคตผ่านแม่น้ำ 5 สาย เหตุผลถัดมาผู้ยึดอำนาจไม่ควรเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับบ้านเมืองอีกต่อไปในฐานะเป็นผู้ฉีกรัฐธรรมนูญถือเป็นการลงโทษ
อย่างไรก็ตาม เหตุผลข้อแรกควรใช้กับแม่น้ำ 5 สายทั้งหมด เพราะเป็นผู้วางระบบและสิ่งที่ทำไว้จะมีผลต่อไปในอนาคต ดังนั้น แม่น้ำ5สายไม่ควรดำรงตำแหน่งใดๆ ต่อไปหลังมีการเลือกตั้ง การใช้เหตุผลทั้ง 2ข้อจะเป็นไปไม่ได้เพราะคนที่จะบัญญัติเรื่องนี้คือกรธ.ซึ่งเป็นคนของคสช.เพราะมาจากการแต่งตั้ง ต้องทำอะไรที่ไม่ขัดต่อคสช.การจะหวังให้เกิดกติกาให้คสช.หรือแม่น้ำ 5สายเว้นวรรคทางการเมืองจึงเป็นไปไม่ได้ มากไปกว่านั้นในประเทศไทยแทนที่จะกำหนดเงื่อนไขสำหรับผู้ที่ยึดอำนาจในลักษณะเป็นการลงโทษ แต่กลายเป็นผู้ยึดอำนาจ รัฐประหารมากำหนดเงื่อนไขสำหรับผู้ที่มาจากการเลือกตั้งเสียมากกว่า
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการตั้งคำถามหรือตั้งข้อสังเกตว่ากรธ.อาจจะกำลังร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ไม่ผ่านประชามติ เพื่อให้คสช.อยู่ได้นานมากขึ้นหรือเลือกใช้วิธีดำเนินการหลังจากนั้นตามใจชอบนั้น ผู้มีอำนาจไม่ควรโมโหเพราะความเห็นลักษณะนี้เป็นการมองโลกในแง่ดีคือมองว่าร่างเช่นนี้พราะไม่ต้องการให้เกิดการใช้จริง ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ซึ่งการที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติยังดีกว่าปล่อยให้ผ่าน เพราะหากร่างนี้ผ่านประชามติได้จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงหากไม่มีการแก้ไขสาระสำคัญ ทำให้บ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ รัฐบาลอ่อนแอ ไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศชาติและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ บ้านเมืองจะอยู่ในน้ำมือของผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ผู้คนจะเห็นถึงความไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นธรรม จนเกิดความไม่พอใจและกลายเป็นความขัดแย้ง ทำประเทศเสียโอกาสและชะงักงัน และเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจที่สุด
“ขณะนี้ประเทศถอยหลังไปมากแล้ว จะยิ่งถอยหลังต่อไป ขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังก้าวไปข้างหน้า ถ้าร่างนี้ผ่านประชามติจะเป็นผลเสียมากกว่าไม่ผ่าน หากเราไม่ช่วยทำความเข้าใจร่างนี้ให้ดี และชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ความเสียหายจะตกแก่ประเทศชาติและประชาชนทุกคน เวลานี้ยังไม่สามารถทายใจคสช.ได้ว่าคสช.จะใช้วิธีใดหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ แต่คสช.คงไม่เกิดดวงตาเห็นธรรม แล้วทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยได้โดยเร็ว ขณะเดียวกันถ้าร่างไม่ผ่านคสช.ก็จะไม่อยู่ในสภาพที่สามารถกำหนดอะไรได้ตามใจชอบอีกต่อไป ฉะนั้นขึ้นอยู่กับสังคมไทยว่าจะต้องการอย่างไร ทั้งนี้ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ สิ่งที่เกิดตามมาก็ไม่เลวร้ายไปกว่าการปล่อยให้ร่างนี้ผ่านไป” นายจาตุรนต์ กล่าว
