“ปิ่นแก้ว” เผยทหารทำหนังสือพบที่ค่าย ยันเคลื่อนไหววิชาการ “ชำนาญ” เชื่อการแสดงออกไม่เข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.

วันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี  อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เผยกรณีทหารเชิญตัวไปพบที่กองบัญชาการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 33 ค่ายกาวิละ  หลังชุมนุมเคลื่อนไหวที่ข่วงท่าแพ ว่า พล.ต.โกศล  ประทุมชาติ ผู้บัญชาการ มทบ.ที่ 33 ได้ทำหนังสือเชิญไปพบที่ มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางราชการ โดยทำหนังสือเชิญไปพบ ผ่าน น.พ.นิเวศน์  นันทจิต อธิการบดี มช. ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ดังนั้นจำเป็นต้องไปพบ พล.ต.โกศล ตามหนังสือเชิญ ที่กองบัญชาการ มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ โดยอ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 มาให้พบตามวัน เวลาดังกล่าว เพราะทหารอ้างว่า ช่วงวันเวลาดังกล่าวติดรับเสด็จ ไม่สามารถมาพบที่ มช.ได้
น.ส.ปิ่นแก้ว กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล หรือเป็นห่วงความปลอดภัย เพราะมีผู้ถูกเรียกไปพบ พล.ต.โกศล รวม 3 คน คือ น.ส.รจเรข วัฒนพาณิชย์ เจ้าของร้านบุ๊คส์รีพับลิก ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.พบพระ จ.ตาก และตนเอง ซึ่งถูกระบุว่าเคลื่อนไหวชุมนุมที่ข่วงท่าแพ โดย น.ส.รจเรข ถูกเชิญทางโทรศัพท์ ส่วนครู อ.พบพระ ถูกเชิญตัวผ่านข้อความทางไลน์ ไม่มีหนังสือเชิญเหมือนตน หลังถูกทหารเรียกพบตัว มีอาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษาและเครือข่ายประชาธิปไตย ได้โทรศัพท์มา เพื่อแสดงความห่วงใย และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
น.ส.ปิ่นแก้ว กล่าวอีกว่า ได้มีเพื่อนนักวิชาการ และนักกฏหมาย และตนเองศึกษาคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ระบุว่า  ทหารสามารถปฏิบัติภารกิจ หากมีเหตุความไม่สงบเรียบร้อย หรือเกิดความวุ่นวาย ยุยงปลุกปั่น และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ สามารถเรียกบุคคลมาสอบถาม หรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางราชการได้ ซึ่งเป็นคำสั่งที่กว้างมาก ไม่ระบุความผิดชัดเจน ดังนั้นทางทนาย และนักกฏหมาย แนะนำระวังการให้ข้อมูล เพราะอาจส่งผลกระทบภายหลังได้ หากทหารถามการชุมนุมเคลื่อนไหวที่่ข่วงท่าแพ จะบอกว่าเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เป็นการแสดงออกเชิงวิชาการ ไม่ได้ชุมนุมประท้วงหรือต่อต้านรัฐบาล คสช.อย่างใด
ด้านนายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ ในฐานะอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ มช. กล่าวว่า การเคลื่อนไหวชุมนุมของอาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษาและเครือข่ายประชาธิปไตย จำนวน 15 คน ที่ข่วงท่าแพ ถือเป็นเรืองปกติ ของคนที่ไม่เห็นด้วยกรณีการจับกุมประชาชน ที่แสดงความคิดเห็นผ่านโซเซียลมีเดีย ส่วนการยืนเฉย ๆ ไม่แสดงสัญลักษณ์ พูด หรือเขียนข้อความไม่น่าเข้าข่ายตามคำสั่ง คสช.ดังกล่าว เพราะไม่ได้ต่อต้าน หรือโค่นล้มรัฐบาล
“การเชิญนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย 3 คน ไปพบที่กองบัญชาการ มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ ถือเป็นเรื่องอ่อนไหว ไม่ควรทำถึงขนาดนั้น เพราะแสดงออกโดยเปิดเผย ไม่เกี่ยวข้องการเมือง เป็นการกระทำที่บริสุทธิใจ ไม่น่าผิดกฏหมาย ที่ผ่านมานักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เคยถูกทหารเชิญไปพบที่ค่ายทหาร แต่ได้ปฏิเสธ แต่เจรจาขอให้ทหารพูดคุยกันที่ มช. ซึ่งทหารยินยอม และพูดคุยทำความเข้าใจกัน ก็ไม่เคยเป็นปัญหา แต่ครั้งนี้ทหารใช้ไม้แข็งเพื่อกำราบ หรือหยุดยั้งนักเคลื่อนไหว ซึ่งอาจารย์และนักเคลื่อนไหว 3 คน ที่ถูกเรียกตัวไปพบจำเป็นต้องไปตามคำสั่งดังกล่าว” นายชำนาญ กล่าว
สำหรับการเข้าพบของ น.ส.ปิ่นแก้ว และพวก รวม 3 คน ที่กองบัญชาการ มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวละ วันที่ 3 พฤษภาคมนั้น จะมีนายอรรถจักร์สัตยานุรักษ์ อ.ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ นายสมชาย  ปรีชาศิลปกุล อ.คณะนิติศาาสตร์ มช. นายชำนาญ นักวิชาการอิสระ พร้อมอาจารย์นักศึกษา และนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยหลายคน ไปให้กำลังใจ ที่หน้าค่ายกาวิละ ถ.เชียงใหม่-ลำพูน ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ ด้วย
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image