ไฟป่าช่างเคี่ยน ลุกลามเผาดอยสุเทพ-ปุย เผยเป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เสียหายแล้ว 200 ไร่ ชี้เหตุมีเชื้อเพลิงสะสมมาก ทำแนวกันไฟป้องกันลุกลามไหม้ “พระตำหนักภูพิงค์ฯ-วัดดอยสุเทพ” เตรียม ฮ.บินโปรยน้ำดับไฟพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดไฟป่าลุกลาม บริเวณยอดเขาขุนช่างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย แล้วลุกลามขยายวงกว้าง ลงมาด้านล่างใกล้ค่ายลูกเสือช่างเคี่ยน และพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือ และสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลัง 60 คน พร้อมรถดับเพลิงเข้าสกัดไฟป่ากว่า 20 คัน โดยทำแนวกันไฟป่าลุกลามขยายวงกว้างตลอดคืน เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้มากว่า 8 ชั่วโมงแล้ว ไม่มีท่าทีจะดับได้โดยง่าย เบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายกว่า 200 ไร่
นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่และรถดับเพลิง เข้าที่หมายไม่ได้ เนื่องจากสภาพป่าสูงชัน และมีเชื้อเพลิงสะสมที่เป็นกิ่งไม้ใบไม้ และวัชพืชจำนวนมาก ประกอบกับความร้อนจากเปลวไฟสูงทำให้การดับไฟ เป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงใช้วิธีทำแนวกันไฟเป็นการชั่วคราว พร้อมประสานสำนักฝนหลวงภาคเหนือ นำเฮลิคอปเตอร์ บินโปรยน้ำดับไฟในวันที่ 9 พฤษภาคม เพื่อควบคุมไฟป่าอยู่ในวงจำกัด
ด้านนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 200-300 นายเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวแล้ว เนื่องจากไฟลุกลามเป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร แต่เป็นช่วงกลางคืน จึงดับไฟยาก จึงทำแนวกันไฟป้องกันลุกลามเข้าไปในเขตพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร ขณะนี้สามารถควบคุมไฟป่าได้ระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะดับไฟป่าได้โดยเร็วที่สุด
ต่อมา เวลา 00.05 น. วันที่ 9 พฤษภาคม นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ดับไฟป่าบริเวณยอดเขาขุนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ที่เป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว 70-80 % และดับไฟป่าที่ลุกลามขยายวงกว้างได้ถึง 50% ส่วนไฟที่ลุกลามเป็นแนวยาว 1 กิโลเมตร ใช้วิธีตัดไฟเป็นส่วนๆ ไม่ให้เชื่อมต่อกันได้อีก ทำให้สถานการณ์เริ่มเบาบาง และสามารถควบคุมอยู่ในวงจำกัด ไม่ขยายลุกลามลงพื้นที่ด้านล่างได้อีก โดยใช้เจ้าหน้าที่ดับไฟกว่า 100 นาย และสลับสับเปลี่ยนมาดับไฟตลอดคืน
“ล่าสุด นายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยเสือไฟเข้าร่วมดับไฟให้เสร็จภายในคืนนี้ ซึ่งจังหวัดเชื่อว่าจะสามารถดับไฟได้ เพราะสถานการณ์ควบคุมได้เกือบหมดแล้ว ซึ่งทางทหารได้ส่งกำลังมาสนับสนุนดับไฟเพิ่มอีก รวมเป็น 50 นาย จึงมั่นใจว่า ไฟป่าจะดับคืนนี้อย่างแน่นอน” นายปวิณ กล่าว
นายปวิณ กล่าวต่อว่า ส่วนสำนักฝนหลวงภาคเหนือ ได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ เพื่อดับไฟป่า โปรยน้ำดับไฟ วันที่ 9 พฤษภาคมนั้น ถ้าจำเป็นก็ต้องโปรยน้ำอีกรอบ เพื่อให้ไฟป่าดับสนิท ไม่ลุกโชนขึ้นมาอีก แต่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่เข้าดับไฟอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนการติดตามตัวผู้กระทำการจุดไฟ ทำให้เกิดความเสียหายนั้น มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุทยาน เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
