กลุ่ม NDM เข้าพบยูเอ็น ยื่นร้องคุ้มครองรณรงค์ประชามติ-ถอนฟ้องแอดมินเพจล้อนายกฯ

วันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว และนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ในฐานะตัวแทนกลุ่ม ได้เข้าพบตัวแทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNOHCHR) ถนนราชดำเนินนอก เพื่อยื่นข้อเรียกร้องพร้อมแสดงความกังวลต่อสถานการณ์การลงประชามติและการดำเนินคดีความมั่นคงในศาลทหารต่อแอดมินเพจล้อเลียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. โดยเนื้อหาในหนังสือที่ยื่นระบุว่า

 

เรื่อง เรียกร้องให้มีมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เกิดการจำกัดสิทธิเสรีภาพและคุกคามประชาชน

เรียน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ

Advertisement

ด้วยในสถานการณ์ในประเทศไทยปัจจุบัน ได้เกิดการจำกัดสิทธิเสรีภาพและคุกคามประชาชนโดยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใน 2 กรณีสำคัญ ได้แก่

1. การขัดขวางไม่ให้ประชาชนรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทั้งโดยการตราพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่อนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐเผยแพร่คำอธิบายสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ (ซึ่งในทางปฏิบัติคือการอนุญาตให้มีการรณรงค์รับร่างรัฐธรรมนูญ) ในขณะที่ประชาชนผู้รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี หากรัฐถือว่าการรณรงค์นั้นมีลักษณะเป็นการปลุกระดม นอกจากนี้ในช่วงเวลาก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะประกาศใช้ ยังเคยมีการส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปคอยติดตามกิจกรรมของกลุ่มประชาชนที่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และการขู่ดำเนินคดีกับนักวิชาการที่แจกเอกสารรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอีกด้วย

2. การจับกุมตัวบุคคลจำนวน 8 คน โดยไม่มีการออกหมายจับ จากการจัดทำแฟนเพจล้อเลียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดยมีการตั้งข้อหาต่อประชาชนทั้ง 8 คนในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี ยิ่งไปกว่านั้น บุคคล 2 จาก 8 คนนี้ รวมถึงบุคคลอีก 1 คนที่แสดงการประท้วงต่อกรณีดังกล่าวและถูกจับกุมในเวลาต่อมายังถูกตั้งข้อหาในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี โดยอาศัยข้อมูลที่รัฐบาลได้มาโดยการจารกรรมจากกล่องข้อความในสื่อโซเชียลมีเดียอีกด้วย โดยทั้ง 9 คนนี้จะต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในศาลทหาร

Advertisement

ทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่มีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ที่แสดงถึงการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนแม้กระทั่งในประเด็นที่มีความสำคัญยิ่งต่อประเทศและประชาชนอย่างประเด็นรัฐธรรมนูญ การใช้กฎหมายที่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายของรัฐบาล คสช. ในการประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญของตนเอง และการคุกคามประชาชนอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุเพียงเพราะการล้อเลียนผู้นำรัฐบาล รวมถึงการที่รัฐบาลได้ครอบครองเครื่องมือบางประการที่สามารถล้วงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนได้โดยปราศจากความยินยอม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปฏิปักษ์ต่อการนำพาประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่จึงขอเรียกร้องต่อองค์การสหประชาชาติดังนี้ 1. ให้ดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อให้เกิดการใช้กฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมแก่ผู้รณรงค์ทั้งสองฝ่าย 2. ให้ดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้โดยปราศจากการคุกคามจากรัฐบาล 3. ให้ดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อให้มีการปล่อยตัวบุคคลทั้ง 9 คนในทันที รวมถึงถอนฟ้องบุคคลทั้ง 9 คนนี้ด้วย 4. ให้ดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อสร้างหลักประกันว่าจะไม่เกิดการกระทำลักษณะเดียวกันนี้โดยรัฐบาล คสช. อีกในอนาคต

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติและประชาคมระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะสามารถกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตยได้อย่างที่ควรจะเป็น

ด้วยความนับถือ
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image