ปรับระบบ ‘การแพทย์ฉุกเฉิน’ ทุกสิทธิเข้ารักษาใน รพ.ทั่วปท.ฟรีใน 72 ชม.แค่กด 1669

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินตามนโยบายรักษาทุกที่ดีทุกสิทธิ (EMCO) ว่า ขณะนี้ ระบบการแพทย์ฉุกเฉินได้พัฒนาและออกแบบให้ประชาชนคนไทยที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลใน 3 กองทุน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กองทุนประกันสังคม และกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลเอกชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นแต่ละกองทุนจะตามจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยที่อยู่ในสิทธินั้นๆ เอง

“ระบบการแพทย์ฉุกเฉินเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 ตลอด 4 ปี มีผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลตามสิทธิดังกล่าวมากกว่า 70,000 คน และจากผลสำรวจพบว่ามีความพึงพอใจสูง แต่ยังมีปัญหาที่สำคัญคือ มีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาจากผู้ป่วยหรือญาติด้วยเหตุผลหลายประการจนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องและยื่นเรื่องทวงถามไปยังรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องมีการทบทวนและปรับระบบให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สพฉ.จึงได้ร่วมมือกับนักวิชาการด้านระบบค่ารักษาพยาบาล ออกแบบการคิดค่ารักษาพยาบาลและทำข้อเสนอ เงื่อนไขต่างๆ พร้อมจัดประชุมร่วมกันกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และผู้แทนจากทั้ง 3 กองทุน” นพ.อนุชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อสรุปร่วมคือ 1.จะร่วมมือดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามระบบการแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนโดยไม่คิดค่ารักษากับผู้ป่วย แต่จะเบิกคืนจากกองทุนต่างๆ โดยมี สพฉ.กำหนดอาการฉุกเฉินวิกฤต 2.การรักษาอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินจะคิดค่ารักษาทุกรายการแทนการเหมาจ่ายใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่แต่ละกองทุนกับโรงพยาบาลเอกชนจะตกลงกันเอง 3.จัดระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ เมื่อพ้นวิกฤต หรืออยู่จนครบ 72 ชั่วโมง อย่างมีประสิทธิภาพ 4.สพฉ.ร่วมกับ รพ.รามาธิบดี จัดการอบรมการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้แพทย์ พยาบาลห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชนสามารถคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามเกณฑ์ที่ สพฉ.กำหนด รวมทั้งจัดเตรียมศูนย์ประสานงานเพื่อให้แพทย์เวรประจำศูนย์ประสานงาน สามารถช่วยการตัดสินเรื่องฉุกเฉินวิกฤตในกรณีที่แพทย์ พยาบาลหน้างานไม่แน่ใจ 5.เมื่อทุกฝ่ายยอมรับกับเงื่อนไขต่างๆ สพฉ.จะเสนอให้คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินออกเป็นประกาศให้ทราบโดยทั่วกันและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบต่อไป และ 6.เตรียมตั้งกรรมการติดตามและปรับปรุงระบบการแพทย์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ ในพื้นที่พิเศษที่ห่างไกล อาทิ พื้นที่เกาะ ภูเขา หรือพื้นที่ธุรกันดาร ที่รถพยาบาลเข้าถึงยาก ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการเคลื่อนย้ายผ่านเรือกู้ชีพ หรืออากาศยาน ก็ได้รับสิทธิและได้รับบริการฟรีเช่นกัน โดยแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image