เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการเด็กและครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังนำเจ้าหน้าที่ดย.และนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่ดูสภาพครอบครัวเด็กในการดูแลของบ้านครูน้อย เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ ก่อนจะปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ว่า ได้ระดมนักสังคมสงเคราะห์จากสถานสงเคราะห์เด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว ใน กทม. จ.ปทุมธานี จ.นนทุบรี รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เยี่ยมบ้านเเละพูดคุยกับครอบครัวเด็ก เพื่อถามความเป็นอยู่ ความต้องการ เเละประเมินความช่วยเหลือในเเต่ละด้าน โดยรูปแบบการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับสภาพเเต่ละครอบครัวเเละเป้าหมายสูงสุดในการใช้ชีวิต อาทิ ให้ทุนการศึกษาระยะยาวตามศักยภาพเเละความสามารถเด็ก มีครอบครัวอุปถัมภ์ที่คอยจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นรายเดือน ในส่วนบางครอบครัวที่มีสมาชิกพิการ ได้ให้พก.เข้ามาร่วมดูเเล เช่น ช่วยจัดหางาน ดูเเลคนพิการ หรือช่วยซ่อมเเซมบ้านเรือน เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะสำรวจเสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะนัดประชุมในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เพื่อประเมินการให้การช่วยเหลือ และเริ่มดำเนินให้การช่วยเหลือได้ทันที
“โดยรวมวันนี้เด็กๆ อยู่บ้านกันหมด ส่วนผู้ปกครองบางส่วนก็ออกไปทำงาน ตรงนี้หลังจากบ้านครูน้อยปิดกิจการไปแล้ว ผู้ปกครองก็ต้องไปคิดต่อว่าจะดูแลเด็กอย่างไร จากเดิมที่มาบ้านครูน้อย มาแล้วได้เล่นเครื่องเล่น ของเล่น สื่อการเรียนการสอน แต่หากปิดกิจการไปก็คงต้องดูแลกันเอง ยังดีว่าสังคมตรงนั้นอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่และใกล้กัน ก็อาจเป็นรูปแบบชุมชนดูแลกันเอง” นางจิราพรกล่าวและว่า
ทั้งนี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน พม.โดยสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ เตรียมมอบเงินอุดหนุนสงเคราะห์เด็กในครอบครัวช่วยเหลือเด็กขาดแคลนแก่เด็กในการดูแลบ้านครูน้อย ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ซึ่งยังเป็นวันเดียวกับที่ครูน้อยนัดประชุมผู้ปกครองด้วย อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.ให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวมาก โดยสั่งการให้ช่วยเหลือ และรายงานผลการดำเนินการและสิ่งที่จะดำเนินการทุกวัน
นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้
ด้าน นางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย กล่าวทั้งน้ำตาตอนหนึ่งว่า มีกระแสสังคมถาโถมเข้ามาในจิตใจครูมากว่าครูทำเพื่อกอบโกย ทำเพื่อจะเอาเด็กมาหากิน ทำเพื่อเอาเงินทองไปซื้อที่ดิน ซื้อรถยนต์ให้ลูก ทั้งหมดเป็นความเจ็บช้ำน้ำใจที่ครูคิดว่าพอกันที เพราะ 35 ปีก็ยอมรับว่าเหน็ดเหนื่อย ทุ่มเททุกสิ่งอย่าง ทุ่มเทเวลา ทุ่มเทแรงกาย แรงเงิน ทั้งต้องปล่อยปละละเลยหลายสิ่งที่เป็นครอบครัว เพื่อมาทุ่มเทให้กับเด็ก อย่างไรก็ตาม สำหรับหนี้สิน จำนวน 8 แสนบาท ที่กู้ยืมเพิ่มเติมเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมานั้น หลังจากปิดกิจการขายบ้าน ก็สามารถนำเงินส่วนนี้มาชำระได้ทั้งหมด
“ยอมรับว่าที่ผ่านมาทำงานไม่เป็นระบบเเละเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ คิดเเค่ทำทุกอย่างให้เด็กมีความสุข จนวันนี้ต้องปิดบ้าน เด็กต้องขาดโอกาส ครูก็ขอโทษสังคมด้วย” นางนวลน้อยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่นั้น เมื่อเข้าไปในซอยราษฎร์บูรณะ 26 และเดินเท้าต่อถึงบ้านครูน้อยที่มีชุมชนล้อมรอบ พบเป็นซอยทางเข้าแคบๆ สภาพแวดล้อมไม่ค่อยสะอาด สองฝั่งข้างทางเป็นบ้านไม้หลังเก่าๆ มองเข้าไปพบเด็กที่อยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่พ่อแม่ อยู่กับผู้พิการที่มีคนคอยดูแล ช่วงนี้เด็กๆ ยังไม่เปิดภาคการศึกษา ทำให้ต่างออกมาต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ดย.และสื่อมวลชน เด็กๆ ยังจูงครูน้อยพาเดินสำรวจบ้านของเด็กในการดูแล ขณะที่สภาพภายในบ้านครูน้อย แม้จะทำความสะอาดมาดีแล้ว แต่ก็ยังปรากฏสภาพความทรุดโทรม ไม่ว่าจะสื่อการเรียนการสอน เครื่องเล่นของเล่น ภายในมีห้องสมุดสำหรับเด็ก แต่วันนี้ถูกปิดไว้ ส่วนกองของบริจาค โดยรวมพบเป็นของบริจาคนานแล้ว แทบไม่พบของบริจาคใหม่ๆ ขณะเดียวกันระหว่างที่คณะและสื่อมวลชนลงพื้นที่นั้น ก็ไม่ปรากฏคณะผู้มีอุปการะคุณที่จะเข้ามาบริจาคเข้ามาแต่อย่างใด
