‘ศานิตย์’รอหลักฐาน ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหา6โจ๋ตื้บชายพิการเพิ่ม ‘บุกรุก-ชุลมุนต่อสู้-ฆ่าโดยไตร่ตรอง’

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.)เปิดเผยความคืบหน้า กรณีนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความของญาตินายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี อาชีพส่งขนมปัง ถูกคนร้ายใช้มีดแทงเสียชีวิต เข้าพบ พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และแจ้งข้อหาเพิ่มกับ น.ส.ณัฐณิชา หรือเกมส์ ฤทธิ์ล้ำเลิศ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ ฐานข่มขู่ พร้อมทั้งนำพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้พนักงานสอบสวนสน.โชคชัย เพื่อพิจารณา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ว่า ทางทนายความอยากให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 2 ราย ในข้อหาสมคบในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 83 แต่เบื้องต้นสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าโทษหนักกว่าสมคบ ส่วนที่ 2 เป็นส่วนคดีอื่นๆ อาทิ ความผิดฐานบุกรุก ตามมาตรา 365 ฐานมีอาวุธที่มีผู้ถือมีด 2 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าช่วงนั้นมีการเปิดร้านอยู่หรือไม่ หากมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปได้ จะไม่เข้าในฐานความผิดบุกรุก ขณะที่ความผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควรตามมาตรา 371 ได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมแล้ว ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจบังคับขู่เข็ญตามมาตรา 392 ถือเป็นความผิดลหุโทษ คนทั่วไปอาจไม่รู้ข้อเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งไปร่วมกับความผิดในข้อหาหลักอยู่แล้ว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อหาชุลมุนต่อสู้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา คำว่าชุลมุนต่อสู้คือไม่รู้ว่าใครผิด ต้องเอาคนที่ร่วมกันทั้งหมด แต่กรณีดังกล่าวมีคนรู้ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนกรณีการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น คำว่าไตร่ตรองต้องมีการเตรียมการอย่างน้อยสุด อย่างเช่นกรณีคน 2 คนจะลงมือฆ่าเนื่องจากมีสาเหตุโกรธเคืองกันในใจกันตลอด วันหนึ่งนำอาวุธปืนไปจัดเตรียมมา มีการวางแผน แต่กรณีดังกล่าวใช้ระยะเวลาเพียง 5 นาที โทรไปบอกเพื่อนถูกอาวุธมีดจี้คอให้มาช่วย อีกฝ่ายมีมีดดาบจึงอยู่ในอันตราย ต้องตรวจสอบอีกว่ามาเพื่อประสงค์อะไร ประสงค์จะฆ่าเลยหรือไม่ หรือเจตนาจะป้องกันตัว หรือมาเพื่อช่วยระงับเหตุ หรือมาแค่ทำร้ายร่างกาย ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด ไม่สามารถตามกระแสตามความรู้สึกหรือตามทนายความผู้กล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการด้วยความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย

รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่วันแรกยืนยันว่าการตรวจสอบของพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทนายความไม่มีการให้ชื่อแก่พนักงานสอบสวนแต่อย่างใดให้ไปสอบถามบุคคลอื่น กรณีการกล่าวหาว่ามีการโพสต์ด่าก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับคนที่ 8 น.ส.เฟิร์น (นามสมมุติ) หรือไม่นั้น ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีการกระทำผิดหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image