วันที่ 16 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่ ม.7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กับพื้นที่ ม.4 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ทำให้พื้นที่ป่าพรุดังกล่าวได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 100 ไร่ ขณะที่ทาง จนท.ดับไฟป่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เข้าสกัดเพลิงไว้ได้เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด บรรยากาศโดยทั่วไปในพื้นที่พรุควนเคร็ง ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มควันลอยเข้ามาเป็นระยะๆ โดยพบว่าหลังเวลา 08.00 น. ควันได้ลอยเข้ามาในเขตพื้นที่ชุมชน ม.4 ต.เคร็ง อีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้ภายในชุมชนมีแต่ควันไฟปกคลุมทั้งหมู่บ้าน โดยนายเอกพจน์ ภิรมย์รักษ์ กำนันตำบลเคร็ง อ.ชะอวด กล่าวว่า ไฟได้คุขึ้นอีกครั้งในหลายๆ จุด ซึ่ง จนท.ได้เข้าดับไฟ จนกระทั่งเช้านี้ลมได้พัดควันไฟเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องออกจากบ้านไปหาที่อยู่ในที่ปลอดภัย ทราบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้เข้าเร่งสกัดไฟซึ่งเกรงว่าจะลามเข้ามาในหมู่บ้าน
ด้านนายพงศ์เทพ ไข่มุกต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งของอำเภอชะอวด พร้อมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อร่วมระดมความคิดเห็นแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น, ระยะยาว, การดูแลป้องกันรักษาป่าสร้างความตระหนักของชุมชน เบื้องต้นนายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอชะอวด ได้รายงานให้ทราบว่าไฟได้ไหม้เป็นระลอกกว่า 11 ครั้ง พบว่า แปลงแรกป่าไม้เสม็ดประมาณ 400 ไร่ แปลงที่สองป่าไม้และทุ่งกระจูดประมาณ 700 ไร่ พร้อมเสนอแนวทางฟื้นฟูทุ่งลานกระจูดในพื้นที่ 200 ไร่ และแปลงป่าชุมชนป่าพรุสวนสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นป่าเสม็ดกว่า 1,500 ไร่ ได้สร้างความเสียหายและกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้ประกาศให้ ต.เคร็ง อ.ชะอวด เป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัยแล้ว และได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง)เช่นกัน
