เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 พฤษภาคม นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนิมิต ทัพวนานต์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แถลงกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัว ข.ช.อาเดม คาราดัก ไปขึ้นศาลทหาร เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ขณะนำตัว ข.ช.อาเดม ออกจากรถยนต์ไปขึ้นศาล ข.ช.อาเดม ได้ตะโกนบอกผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ใช่สัตว์ ผมเป็นมนุษย์ ผมเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชนอยู่ไหน” นอกจากนี้ในขณะพิจารณาคดีของศาล ข.ช.อาเดม ได้ร้องเรียนต่อศาลผ่านล่ามภาษาอุยกูร์ ด้วย
นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ถูกทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง ภายในเดือนนี้ จากเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัว พร้อมทั้งอ้างว่ามีร่องรอยฟกช้ำตามลำตัว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมไม่ให้รับประทานอาหารฮาลาล โดยผู้พิพากษากล่าวว่าจะดำเนินการสอบสวนและพิจารณาคำขอร้องของ ข.ช.อาเดม ต่อไป นั้น กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ 1.เนื่องจากผู้ต้องขังคดีวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ เป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงและมีความร้ายแรง สร้างความเสียหายให้แก่สาธารณชน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของรัฐ และความเหมาะสมในเรื่องสถานที่ จึงได้นำตัว ข.ช.อาเดม และข.ช.มีไรลี ยูซุฟู คู่คดี ไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี โดยเรือนจำชั่วคราวแห่งนี้ เป็นการยืมพื้นที่อาคารของหน่วยทหารมาประกาศเป็นเรือนจำชั่วคราวเท่านั้น แต่การบริหารงานและการควบคุมผู้ต้องขัง จะดำเนินการภายใต้การบริหารงานของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทางกรมราชทัณฑ์เคยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีแล้ว เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่สาธารณชน
นายกอบเกียรติ กล่าวต่อว่า 2.กรณีที่ ข.ช.อาเดม กล่าวอ้างว่าถูกซ้อม ทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง ภายในเดือนนั้น กรมราชทัณฑ์มอบหมายให้นายแพทย์วีระกิตต์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าไปตรวจร่างกาย ในเช้าวันนี้(18 พ.ค.) ไม่ปรากฏว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายจากบุคคลอื่นดังที่กล่าวอ้าง 3. เรื่องการจัดอาหารให้แก่ ข.ช.อาเดม ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมอาหารดิบ นำไปปรุงที่เรือนจำชั่วคราวฯ ตามหลักศาสนาอิสลามให้แก่ ข.ช.อาเดม และข.ช.ยูซุฟู รับประทานที่เรือนจำชั่วคราว นอกจากนี้ยังได้จัดอาหารเพิ่มเติม โดยซื้ออาหารสำเร็จจากร้านอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาลให้แก่ ข.ช.อาเดม รับประทานเป็นประจำ 4. เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อ ข.ช.อาเดม กลับมาถึงเรือนจำฯ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นั้น ข.ช.อาเดม กล่าวขอโทษ (Sorry) ต่อหัวหน้าผู้ควบคุมเรือนจำชั่วคราวฯ ในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเข้ามากอดและกล่าวว่า “ขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อไปจะปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำฯ” พอจะอนุมานได้ว่า การแสดงออกดังกล่าวเป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจจากสื่อมวลชน อาจจะส่งผลไปถึงองค์การสิทธิมนุษยชนให้มาสนใจ และนอกจากนี้ทางเรือนจำฯเคยรายงานว่า ข.ช.อาเดม มีพฤติกรรมในการเรียกร้องความสนใจ เช่น การไม่รับประทานอาหารและพยายามทำร้ายร่างกายตนเอง โดยการต่อยกำแพงห้องขังอยู่หลายครั้ง กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า การควบคุมผู้ต้องขังทั้งสองรายในคดีนี้ เป็นไปตามหลักการสากล ไม่ว่าจะเป็นสภาพความเป็นอยู่ การจัดอาหาร การรักษาพยาบาล ตลอดจนการเปิดโอกาสให้พบทนายความเพื่อปรึกษาคดีอย่างสม่ำเสมอ
นายกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า หลังจากกลับจากศาล นายอาเดม เข้าไปกอดและพูดกับหัวหน้าเรือนจำเสียใจกับการกระทำ แต่มันผ่านไปแล้ว ทั้งนี้การกระทำของอาเดม เป็นการเรียกร้องความสนใจ ให้องค์กรสิทธิมนุษยชนรับรู้ เพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี
