อ่านเต็มๆ! จม.“สุธี” แจง “กวางจู” บอกเป็นแค่ “เกมการเมือง” หวังพิพิธภัณฑ์ไม่ตกเป็นเหยื่อ

ภาพจากเฟซบุ๊ก sutee.kunavichayanont

กรณี อาจารย์ นักวิชาการ และศิลปิน รวม 118 ราย ในนาม “นักกิจกรรมวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย” (กวป.) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ กรณีนำผลงานของ รศ.สุธี คุณาวิชยานนท์ ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการชุด ‘The Truth_ to Turn It Over’ ในเทศกาลประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสันติภาพ เพื่อรำลึกเหตุการณ์ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1980 ระหว่างวันที่ 10 พ.ค.-15 ส.ค. นี้ โดยกลุ่ม กวป.ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางศิลปะของ รศ.สุธี กับจุดยืนทางการเมือง และจิตวิญญาณการต่อสู้ของชาวกวางจู โดยมีรายชื่อส่วนใหญ่เป็นศิลปิน นักวิชาการด้านวัฒนธรรม นักเขียน และอาจารย์มหาวิทยาลัย อาทิ เกษม เพ็ญภินันท์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์, เวียงรัฐ เนติโพธิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ลักขณา ปันวิชัย หรือ “คำ ผกา” นักเขียน, กฤช เหลือลมัย กวีและนักวาดการ์ตูน, อุทิศ เหมะมูล นักเขียนรางวัลซีไรต์, อนุสรณ์ ติปยานนท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง เป็นต้น

ต่อมานาย ลิม จง ยอง ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ ว่าอาจมีการหารือเพื่อปลดงาน 1 ใน 4 ด้านรศ.สุธี ชี้แจงว่า ได้รับอีเมลล์ติดต่อจากทางพิพิธภัณฑ์ซึ่งตนได้ตอบกลับไปในช่วงเช้าของวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา และกล่าวว่าตนไม่เคยสนับสนุนรัฐประหาร เพียงแต่ต่อต้านรัฐบาลที่คอรัปชั่นเท่านั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ค. รศ.สุธี ได้เผยแพร่ข้อความในจดหมายที่ส่งถึงนายลิม จง ยอง ผ่านเฟซบุ๊ก sutee.kunavichayanont โดยเป็นจดหมายภาษาอังกฤษ มีใจความว่า รู้สึกขอบคุณที่ให้การสนับสนุนผลงานของตน และอยากจะบอกว่าตนรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในงาน นิทรรศการที่มีเกียรตินี้ ในชื่อ “The Truth_To Turn It Over” ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู พร้อมกับขอบคุณในการเปิดกว้างอนุญาตให้ตนได้พิสูจน์ข้อกล่าวหา ทั้งข้อกล่าวหาที่ว่าให้การสนับสนุนรัฐบาลทหารชุดปัจจุบัน และที่เลวร้ายที่สุด คือการกล่าวหาว่าการเคลื่อนไหวด้านการเมืองก่อนหน้านี้เป็นการสนับสนุนให้ ทหารลุกขึ้นมาทำรัฐประหาร

รศ.สุธี ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งสอง และขอยืนยันว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เป็นการสนับสนุนทหาร แต่เป็นการไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งตนและชาวไทยอีกนับล้านคนได้แสดงสิทธิด้านประชาธิปไตยด้วยการใช้ท้องถนน ในการประท้วงต่อต้านอำนาจของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และในช่วงการประท้วง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ทำเป็นตาบอด ด้วยการปล่อยให้กลุ่มผู้สนับสนุนก่อเหตุรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คน ความดื้อรั้นและขาดซึ่งความรับผิดชอบด้านประชาธิปไตยที่เหมาะสมนำไปสู่ทาง ตันและสูญญากาศทางการเมือง ที่เปิดทางให้ทหารเข้ามาแทนที่

Advertisement

การใช้อำนาจไปในทางมิชอบนำไปสู่การชุมนุมครั้งใหญ่นับตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2556 รวมทั้งความพยายามที่ใช้อำนาจของรัฐบาลในการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ ทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการคาดการณ์กันว่า การคอร์รัปชั่นและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าวจะสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การกระทำเหล่านี้เป็นที่แน่ชัดว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย และทำให้ประชาชนหลายล้านคนรู้สึกเหมือนกับถูกทรยศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตนรู้สึกภาคภูมิใจที่จะดำเนินกิจกรรมหน้าที่ประชาธิปไตยในฐานะพลเรือนคน หนึ่ง ในการต่อประท้วงต่อต้านการทรยศต่อคะแนนเสียงที่โหวตให้แก่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ตนเชื่ออย่างจริงใจว่าการกระทำและความเชื่อใดๆของตนเป็นสิ่งที่สอด คล้องอย่างสมบูรณ์กับความปรารถนาทางประชาธิปไตยของผู้ที่มีส่วนร่วมใน เหตุการณ์ลุกฮือที่กวางจูเมื่อปี ค.ศ.1980

รศ.สุธี ระบุว่า จริงๆแล้ว เผด็จการมีอยู่ในทุกรูปแบบ ทั้งในรูปแบบทหารและพลเรือน รัฐบาลทหารชุดปัจจุบันอาจจะต้องเผชิญกับการต่อต้านเช่นกันจากตนและคนอื่นๆ หากไม่นำเรื่องประโยชน์ของประชาชนมาก่อน และหากไม่คืนประชาธิปไตยแก่ประชาชนตามที่สัญญาไว้

Advertisement

ตนขอย้ำว่า การเคลื่อนไหวที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียงเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของกลุ่มคนที่มีความเห็นใจในยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นเพียงแค่เกมการเมืองที่ตนไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปมีส่วนด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางพิพิธภัณฑ์ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของกลยุทธ์ดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ตนยังคงอยากจะมีส่วนร่วมในงานนิทรรศการของทางพิพิธภัณฑ์ และเชื่อว่า ทางพิพิธภัณฑ์จะไม่ขัดขวางตนเพราะข้อกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรม ที่แน่ชัดว่ามีขึ้นเพื่อเพิ่มคะแนนทางการเมืองสำหรับคนกลุ่มหนึ่งที่จริงๆ แล้วมีส่วนต้องร่วมรับผิดชอบในการสร้างสถานการณ์ที่ทำให้ทหารเข้ามายึดอำนาจในวันนี้

สำหรับจดหมายฉบับเต็ม มีข้อความดังนี้

Dear Jong-young Lim,

I would like to thank you for your kind support of my work and would like to say that I am most honoured and proud to be involved in your prestigious exhibition, “The Truth_To Turn It Over” at Gwangju Museum of Art.

I would also like to thank you for your open mindedness in allowing me to refute the accusations leveled against me. In brief, I appear to be accused of supporting the current military regime and, worse, of prior political activism as advocate for a military coup.
I flatly deny both charges and would like to stress that my very active art/political activities in recent years was not in favour of the military but was in opposition to the abuse of parliamentary majority by the government of Yingluck Shinawatra. I and literally millions of other Thais exercised our democratic rights to take to the streets to protest against gross abuse of power by her government.

During these protests her government turned a blind eye to use of violence against protestors by government supporters. More than 20 deaths were recorded. Her intransigence and lack of proper democratic sense of responsibility directly led to the impasse and political vacuum that allowed the military coup to take place.
The abuse of power that led to the mass demonstrations from October 2013 included the attempt to use the government’s majority to push through a law that would have granted amnesty for crimes of corruption to Thaksin Shinawatra (Yingluck’s brother and a former Prime Ministers). It should be noted that the Thai Supreme Court had convicted Thaksin to a two-year jail term and that several other charges remain pending. Thaksin has never acknowledged his crimes and has been on the run for the past several years.
In addition, Yingluck’s rule was itself rife with corruption of historic proportions. Official estimates of corruption and damages from her rice-pledging scheme alone is in excess of USD 10 billion.She and relevant ministers and officials are facing charges for these crimes in civilian courts.

These activities were clearly undemocratic, and gave rise to the broad sense of betrayal felt by millions, of whom I was one. I am proud to have exercised my democratic duty as a citizen in protesting against the betrayal of votes that her government received from the People. Furthermore, I do sincerely believe that my activities and beliefs are perfectly consistent with the democratic aspirations of all those who participated in the Gwangju Uprising in 1980.
Indeed, Dictatorship comes in many forms, both military and civilian. The current military government will face the same opposition from me and others if they do not put the interest of the people first, and if they do not return the country to Democracy as they have promised to do.

I should also note that the movement to slur my name has been promoted by those who are known sympathisers of the Yingluck government. It is a political game that I do not wish to be a part of, and I sincerely hope that you do not fall prey to their tactics.
I look forward to being able to participate in your exhibition, and trust that you are not deterred by the unfair accusations that are clearly designed to score political gains for a group that must take its share of responsibility for creating the situation for military rule today.

Yours sincerely,
Sutee Kunavichayanont

สุธี

รศ. สุธี คุณาวิชยานนท์ ถ่ายภาพร่วมกับศิลปินจากประเทศต่างๆ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู
รศ. สุธี คุณาวิชยานนท์ ถ่ายภาพร่วมกับศิลปินจากประเทศต่างๆ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image