เวลา 18.00 น. ประชาชนได้เดินเท้ามาถึงยัง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยขณะที่ประชาชนกำลังเดินเข้าอนุสาวรีย์ฯ นั้น ได้มีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งราว 10 คน ได้ออกมายืนที่เกาะกลางถนนพร้อมตะโกนด่าทอประชาชนที่เดินขบวนมาถึง จนเกิดปากเสียงและตะโกนโต้เถียงกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้และกันประชาชนกลุ่มดังกล่าวออกจากพื้นที่เกาะกลางถนน และขอความร่วมมือให้เดินทางกลับ
เมื่อเหตุการณ์สงบ นายเจนวิทย์ เชื้อสาวะถี ได้ขึ้นกล่าวต้อนรับประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ก่อนนำประชาชนทำกิจกรรม “หยั่งเสียงประชามติว่า คสช.ควรอยู่ต่อหรือไม่” โดยแจกกระดาษประชามติจำลองให้ประชาชนทำประชามติว่า คสช.ควรอยู่ต่อหรือไม่ จากนั้นประชาชนได้เข้าแถวลงคะแนนเสียงประชามติในคูหาจำลองที่จัดขึ้น
ทั้งนี้ ระหว่างรอการนับคะแนนและประกาศผล นายรังสิมันต์ โรม ได้ขึ้นอ่านแถลงการณ์ชี้แจงข้อเรียกร้องของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 2 ปีรัฐประหาร จากวันนั้นจนถึงวันนี้ยังคงเห็นว่ามีประชาชนยืนอยู่เคียงข้างขบวนการประชาธิปไตยใหม่ตลอดมา วันนี้เป็นอีกปีที่เรามายืนตรงนี้ มายืนเพื่อเปล่งเสียงให้ไปดังไปถึงคนที่ถือปืน คนที่ใช้ภาษีของประชาชนมาปกครองประชาชนโดยที่ประชาชนไม่ยินยอม เรามาเพื่อย้ำเตือนด้วยกันทุกคน ไม่ใช่เฉพาะตัวผมและเพื่อนๆ แต่มาย้ำเตือนด้วยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และมาเปล่งเสียงเพื่อทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบนั้นทิ้งไป
“คณะบุคคลใดก็ตามไม่ว่าจะใส่เครื่องแบบหรือไม่ก็ตามหากเพิกเฉยเสียงของประชาชนที่เรียกร้อง ขออย่ากล่าวอ้างเลยว่าจะมาปฏิรูปเพราะคุณกำลังเพิกเฉยต่อเสียงของประเทศไทย 2 ปีที่ผ่านมาเราต่างได้รับความทุกข์ยากไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งคนที่ได้รับการรับฟังเสมอคือนายทุนไม่ใช่ประชาชน” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า 2 ปีที่ผ่านมาเสียงของประชาชนไม่เคยถูกรับฟัง ถูกเพิกเฉย ถ้าเรายอมให้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงประชาชนอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เราต้องการในตอนนี้คือขอให้ฟังเสียงประชาชน
“วันที่ 7 สิงหาคม ขอให้พี่น้องไปลงคะแนนเสียง ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ก็ขอให้ไป เพราะส่วนตัวเชื่อในวุฒิภาวะของพี่น้องทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้” นายรังสิมันต์กล่าว และทิ้งท้ายว่า เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ
จากนั้นได้มีการอ่านบทกวี “ยุติธรรม อยู่ไหน?” โดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ และการปราศรัยของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น นักเรียนชั้น ม.5 ถึงประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน 2 ปีหลังการรัฐประหาร ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องอย่างหนัก
ต่อมาเวลา 19.15 น. ได้มีการประกาศผลการนับคะแนนเสียงประชามติว่า คสช.ควรอยู่ต่อหรือไม่ โดยผลที่ออกมาคือ ไม่เอาทุกใบ จากนั้น นายปกรณ์ พร้อมด้วยสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้ขึ้นมากล่าวปิดกิจกรรม ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมกันร้องเพลงบทเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา และบทเพลงแห่งสามัญชน เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรมและแยกย้ายกันเดินทางกลับในเวลา 20.00 น.
