นับวัน บทบาทในฐานะ “โฆษก” ของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด จะยิ่งล่อแหลม
ล่อแหลมและ “หวาดเสียว”
หวาดเสียวในเรื่อง “ความน่าเชื่อถือ” ล่อแหลมในเรื่องเกี่ยวกับ “ข้อเท็จจริง”
โดยเฉพาะในพรมแดนด้าน “เศรษฐกิจ”
ต้องยอมรับว่า หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนนายร้อยเน้นในเรื่อง การทหาร กระเดียดไปในทาง “วิทยาศาสตร์”
มิฉะนั้น คงไม่มีคำว่า “วท.บ.”(ทบ.)
นั่นก็คือ บ่งบอก”วิทยาศาสตรบัณฑิต” อันได้มาจาก”กองทัพบก”
เมื่อแถลงในเรื่อง “เศรษฐกิจ” จึง “เงอะงะ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ล่าสุดเมื่อออกมายืนยันว่า เศรษฐกิจในยุคคสช.ดีวันดีคืน ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม
“แถลง” ยังไม่ทันข้ามวันก็ถูก “ท้าทาย”
ถ้อยสบประมาทอันมาจาก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด จากพรรคเพื่อไทยนั้น
ถือว่า “ช่างเถิด”
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะระคายเคือง เนื้อหนังมังสาอันแข็งแกร่ง ของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ได้
แต่ที่มาจาก 2 ทางนี้ซิ น่ากลัว
1 มาจากคำแถลงของ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ยืนยัน ส่งออกเดือนเมษายน “ติดลบ” ร้อยละ 8
1 มาจากคำแถลงของ นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)
ยืนยัน “ดัชนีความเชื่อมั่น” ปรับลดลง
เป็นดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของเดือนเมษายนเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม
อยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน 2558
ข้อมูลอันมาจากกระทรวงพาณิชย์ ข้อมูลอันมาจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ยากที่จะโต้แย้ง
ประเด็นมิได้อยู่ที่ว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด จะ “โต้แย้ง” อย่างไร
ด้วยท่าทีและท่วงทำนองอย่างไร
หากแต่ยังทำให้เกิด “คำถาม” ตามมาว่า “ข้อมูล” ที่ว่าเศรษฐกิจยอดเยี่ยมอย่างยิ่งนั้น พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ได้มาอย่างไร
ได้มาจากกระบวนการค้นคว้าในท่วงทำนองของ “บัณฑิต” ใน ทาง “วิทยาศาสตร์” แห่งโรงเรียนนายร้อยจปร.
นี่เป็นเรื่องที่จะต้องสืบสาวอย่างจริงจัง
เพราะว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นในเรื่องแห่ง “วิธีวิทยา”
