เมียนมาพร้อมสานต่อความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเชื่อว่าภายใต้การนำจะทำให้กองทัพของสองประเทศมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและการพัฒนาตามบริเวณชายแดน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำถึงความพร้อมของรัฐบาลที่จะร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่เมียนมา เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยยินดีที่ผู้แทนระดับสูงของไทยและเมียนมาได้พบปะและหารือกันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือให้มีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาถือเป็นผู้แทนระดับสูงของเมียนมาคนแรกที่เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของเมียนมา และรู้สึกยินดีต่อการเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน
ซึ่งทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณและยินดีที่กองทัพไทยและเมียนมาให้การสนับสนุนและร่วมมือกันในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด โดยไทยและเมียนมาถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดและมีความสำคัญยิ่ง ทั้งสองประเทศต้องพึ่งพาอาศัยกันและต้องร่วมมือเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนที่เผชิญอยู่ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากการแลกเปลี่ยนด้านการทหารจากการเยือนไทยในครั้งนี้ของผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาแล้ว อยากให้มีการศึกษาและแลกเปลี่ยนในมิติอื่นด้วย เช่น ด้านเศรษฐกิจ และแรงงาน ซึ่งเมียนมามีแรงงานเข้ามาทำงานในไทยเป็นจำนวนมาก โดยไทยยืนยันจะดูแลแรงงานเป็นอย่างดี และหากแรงงานสามารถพิสูจน์สัญชาติได้จากต้นทางจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองฝ่ายได้อย่างดี
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา กล่าวว่า ก่อนมาไทยครั้งนี้ได้พบกับประธานาธิบดีเมียนมา ซึ่งได้ฝากความระลึกถึงมายังนายกรัฐมนตรี และย้ำความพร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป และหวังว่า การเยือนไทยในครั้งนี้จะได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากไทยเกี่ยวกับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และย้ำถึงความพร้อมของกองทัพเมียนมาที่จะสานต่อความร่วมมือกับกองทัพไทยต่อไป
