‘วัฒนา’ ชี้ มาตรา 67 ของร่างรธน. จะทำให้เกิดความขัดแย้งปมศาสนา บอกปชช.ทั้งโลกไม่มีใครรับได้

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า มาตรา 67 แห่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับกรธ. ซึ่งอยู่ในหมวด “แนวนโยบายแห่งรัฐ” ที่บัญญัติให้ “รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท” จะนำมาซึ่งความแตกแยกระหว่างพุทธศาสนิกชนซึ่งแบ่งออกเป็น 2 นิกายใหญ่ คือ เถรวาท ซึ่งเป็นนิกายที่เก่าแก่ที่สุดในศาสนาพุทธ แปลว่า “ตามแนวทางพระเถระ” ได้รับการนับถือในประเทศศรีลังกาและประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว และเมียนมา กับมหายานซึ่งเป็นนิกายของฝ่ายอาจริยวาท แปลว่า “พาหนะที่ยิ่งใหญ่” ได้รับการนับถือกันอยู่ในประเทศแถบตอนเหนือของอินเดีย เนปาล จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม มองโกเลีย ไปจนถึงบางส่วนของรัสเซีย

แม้ 2 นิกายจะมีความแตกต่างเรื่องความเชื่อแต่ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือวิมุตติ ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้นอันเป็นความมุ่งหมายของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ แม้ชาวไทยส่วนใหญ่จะนับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาท แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เชื่อตามแนวทางของมหายานซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะศาสนาอื่นๆ ก็แบ่งออกเป็นนิกายเช่นกัน เช่น คริสต์แบ่งออกเป็นคาทอลิกและโปเตสแตนต์ หรืออิสลามแบ่งออกเป็นสุหนี่และชีอะห์ เป็นต้น แต่ทุกศาสนาและทุกนิกายต่างสอนให้ทุกคนเป็นคนดีด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น รัฐธรรมนูญของไทยทุกฉบับที่ผ่านมาจึงไม่เคยแบ่งแยกเลือกสนับสนุนนิกายใด เพราะถือเป็นเสรีภาพของบุคคลที่จะมีความเชื่อ หรือปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตนได้อย่างเสรี โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐมิให้กระทำการใดๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์ ตราบเท่าที่ความเชื่อหรือการปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หลักการดังกล่าวยังถูกรับรองไว้ในข้อ 18 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ

“บทบัญญัติของมาตรา 67 แห่งร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว จะทำให้ความขัดแย้งในสังคมไทยเพิ่มเรื่องศาสนาขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่มีใครได้รับประโยชน์จากความขัดแย้งดังกล่าวยกเว้นกลุ่มเผด็จการและพรรคพวก คนพวกนี้จึงพยายามสร้างความขัดแย้งรวมถึงการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย จากนั้นทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามโดยใช้กฎหมายและกลไกของรัฐ ส่วนฝ่ายตนหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโดยอาศัยมาตรา 279 ล้างผิดให้ทั้งหมด จึงไม่มีใครต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่ทำไว้กับประเทศชาติทั้งสิ้น เห็นแบบนี้แล้วใครจะรับร่างรัฐธรรมนูญก็ตามสะดวก ส่วนผมไม่เอาด้วยแน่นอนจึงขอยืนยันอีกครั้งว่า ผมไม่รับครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image