จากเหตุการณ์ที่นายปั่น อโนมา อายุ 85 ปี ชายเร่ร่อน (ขอทาน) นอนเสียชีวิตที่หน้ากุฏิพระสงฆ์วัดโกรกกราก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบเอกสารภายในตัวผู้ตาย นอกจากจะพบว่ามีบัตรประชาชนระบุอยู่บ้านเลขที่ 232/23 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต แล้วยังพบมีเงินสดติดตัวอยู่เกือบ 2 หมื่นบาท และบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 แห่ง รวมเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท โดยผู้ตายได้มาอาศัยหลับนอนที่วัดโกรกกรากนานเกือบ 30 ปี แล้วนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 30 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้เข้าสัมภาษณ์ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ถึงความคืบหน้าในการติดตามหาญาติของผู้เสียชีวิต โดยทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร บอกว่า หลังจากที่ทางรองสารวัตรสอบสวน (ร้อยเวร) สภ.เมืองสมุทรสาครได้รวบรวมข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย และรายงานให้ทราบผลแล้วนั้น ก็ได้มีคำสั่งให้ทางร้อยเวรฯ ทำหนังสือแจ้งไปยังนายอำเภอเมืองภูเก็ต และสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อขอให้ช่วยสืบหาญาติของผู้เสียชีวิตตามบ้านเลขที่ ที่ปรากฏในบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต หรือสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจัดการเรื่องทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต พร้อมกันนี้ก็อยากจะฝากให้สื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ตามหาญาติด้วยอีกทางหนึ่ง โดยผู้ที่เป็นญาติตัวจริงสามารถติดต่อแสดงตนได้ที่วัดโกรกกราก หรือ ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนกรณีของทรัพย์สินผู้ตายนั้น หากไม่มีใครมาแสดงตนเป็นญาติจริงๆ เมื่อพ้นระยะเวลาตามความสมควรแล้ว ก็ต้องให้ผู้ดูแลสุดท้ายคือทางเจ้าอาวาสวัดโกรกกรากเป็นผู้ยื่นร้องขอดูแลและทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต แต่จะได้หรือไม่นั้นก็ต้องแล้วแต่ศาลเป็นผู้สั่ง
ทางด้านที่วัดโกรกกรากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาแสดงตนเป็นญาติของลุงปั่น อโนมา เลยแม้แต่คนเดียว
