| ที่มา | มติชน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสิงห์ชัย ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ วัฒนธรรมจังหวัดลำปาง เข้าพบพระบุญทา ปุญญมโน อายุ 87 ปี พระลูกวัดสิงห์ชัย หลังพบว่าเป็นบุคคลในภาพตามโครงการตามหาบุคคลในภาพแห่งความทรงจำ 7 ภาพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 โดยเป็นบุคคลในภาพที่ 3 ที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศตามหา เป็นภาพพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทอดพระเนตรแผนที่ ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเคียน บ้านผาแมว ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2524
พระบุญทากล่าวว่า ขณะนั้นอายุ 42 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านดอนมูล ต.หัวเสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาในพื้นที่ มีประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จจำนวนมาก โดยพระองค์ท่านทรงถามถึงที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำห้วยเคียนว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ ซึ่งตนถวายรายงานทันที ท่ามกลางความปลาบปลื้มที่มีโอกาสถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด
นายส่อม วงศ์สีดา อายุ 78 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จ.สกลนคร หนึ่งในบุคคลในภาพแห่งความทรงจำ ภาพที่ 2 กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปยังบ้านนานกเค้า จ.สกลนคร เพื่อเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ เมื่อปี 2522 พระองค์ตรัสถามเรื่องที่ดินมีกี่ไร่กี่งาน ถามเรื่องครอบครัวมีพี่น้องกี่คน ตนตอบว่าครอบครัวทำคนละ 10 ไร่ มีพี่น้อง 4 คน และยังตรัสขอให้ดำเนินการต่อไป รู้สึกปลาบปลื้มที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนพระทัยในความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และทางตนได้บริจาคที่ดินประมาณ 18 ไร่ ให้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนนคร ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายปราโมทย์ อินสว่าง อายุ 68 ปี อดีตผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ หนึ่งในบุคคลในภาพตามโครงการตามหาบุคคลในภาพแห่งความทรงจำ ภาพที่ 4 กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทอดพระเนตรความก้าวหน้าของโครงการแม่งัด ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2528 รู้สึกปลาบปลื้มปีติหาที่สุดไม่ได้ ที่ได้สนองงานพระองค์ถึง 3 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นรู้สึกดีใจมากที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นบุคคลในภาพ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงเยี่ยมชมเขื่อนแม่งัด และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จึงมีโอกาสถวายรายงานเกี่ยวกับลักษณะโครงการก่อสร้าง ขณะนั้นในหลวงตรัสว่าน้ำที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าแล้ว นำไปใช้ในการเกษตรได้หรือไม่ ตนกราบทูลว่าทำได้แต่ไม่คุ้มที่จะทำ ในหลวงตรัสว่า แล้วอีกฟากฝั่งของโรงไฟฟ้ามีน้ำส่งจากเขื่อนไปให้ประชาชนใช้ในการเกษตรหรือไม่ จึงกราบทูลว่า มีท่อส่งไปตามคูคลองเพื่อให้ประชาชนใช้ในการอุปโภคบริโภคกระหม่อม
ด้าน น.ส.ทิพย์วรรณ หรือครูส้ม ศุภกิจถาวร อายุ 29 ปี อาจารย์สอนดนตรีโรงเรียนรัชตวิทยาคม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ บุคคลในภาพที่ 7 เล่าเหตุการณ์ในอดีตด้วยสีหน้าอันปลาบปลื้มว่า รู้สึกตกใจที่เห็นภาพขณะเฝ้าฯถวายงานในหลวง เป็นความทรงจำที่นานมาก เป็นความภูมิใจของวงศ์ตระกูล หลังจากกระทรวงวัฒนธรรมเลือกภาพมงคลภาพนี้
น.ส.ทิพย์วรรณกล่าวว่า ขณะนั้นเรียนหนังสือชั้นระดับมัธยมต้น โรงเรียนวังไกลกังวล อ.หัวหิน ได้เดินทางพร้อมคณะครูและนักเรียนไปรับฟังบรรยายจากพระองค์ท่านของการศึกษามูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เรื่องของการบำบัดน้ำเสีย การพัฒนาดิน การทำฝนหลวง และการปลูกป่า นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงสอนทุกอย่างทั้งการใช้ชีวิต การเป็นนักเรียนที่ดีและเน้นในเรื่องการศึกษา ถือเป็นโชคดีมากที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯในหลวง ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญให้ไปถ่ายทอดความรู้สึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในวันที่ 8 มิถุนายนนี้
ทิพย์วรรณ ศุภกิจถาวร, ปราโมทย์ อินสว่าง
