“วิษณุ” ระบุล็อกวันประชามติแล้ว 4 ชั้นไม่สนแรงกระเทือนเลื่อนจาก 7 ส.ค. ชี้ข้อเสนอ “เสรี” ทำได้ แต่ไม่จำเป็น หากพ.ร.บ.ประชามติขัดคำใดตัดคำนั้นทิ้ง ตัวพ.ร.บ.ใช้ได้ตามปกติ เตรียมลงพื้นที่นครศรีฯแจงปชช.ร่วมเวทีกกต. 11 มิ.ย.นี้
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 5 มิถุนายน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอแนะให้รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตัดมาตรา 61 วรรคสองออก โดยไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีว่า แนวทางนี้เป็นไปได้ แต่ยังไม่น่าจะจำเป็น ซึ่งความจำเป็นในที่นี้คือเราต้องรอดูวันที่ 6 มิถุนายนนี้ก่อนว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอะไรบ้าง และหากเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ว่าที่ผู้ตรวจฯให้วินิจฉัยนั้นเป็นเพียงคำบางคำที่อยู่บางวรรคของบางมาตรา ซึ่งหลักการก็มีอยู่แล้วว่าถ้าหากคำใดที่ไม่เป็นสาระสำคัญจนผูกกับกฎหมายทั้งฉบับ คือแค่เฉพาะคำนั้นที่เสีย เช่นก่อนหน้านี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำบางคำในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐขัดรัฐธรรมนูญ ศาลก็วินิจฉัยว่าเฉพาะมาตรานั้นที่ขัด สุดท้ายพ.ร.บ.ฮั้วก็ยังอยู่ และไม่เห็นมีใครเดือดร้อนโวยวายว่าต่อไปนี้จะฮั้วกันได้ตามสบายเพราะกฎหมายฮั้วโมฆะไปแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการขัดก็ขัดเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ได้ขัดทั้งฉบับ ซึ่งการวินิจฉัยคำที่ขัดศาลได้วินิจฉัยมาหลายครั้งแล้ว เราก็ไม่มีการไปเลิกอะไรทั้งนั้น แต่เพียงแค่ตัดคำนั้นทิ้งไป
“กฎหมายประชามติมีหนเดียว ใช้หนเดียว หลังวันที่ 7 สิงหาคมก็ไม่มีใช้แล้ว หากจะทำครั้งต่อไปก็ต้องออกใหม่ เอาอันนี้มาใช้ซ้ำไม่ได้อยู่ดี จึงไม่มีเหตุอะไรที่เราต้องมานั่งเดือดร้อนเข้าสภาเพื่อให้ผ่านสามวาระและขั้นตอนต่างๆ มากมาย แบบนั้นกว่าจะประกาศใช้ออกมาก็คงผ่านวันประชามติไปแล้ว” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 61 วรรคสองขัดรัฐธรรมนูญจะมีแนวทางอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีแนวทางใดๆ แค่เราอยู่เฉยๆ อย่าไปจับเขาที่ทำผิดสามคำที่ขัด ส่วนคำอื่นยังจับกันต่อได้
เมื่อถามว่ามีแรงกระเทือนจากหลายฝ่ายให้เลื่อนการวันประชามติมีผลกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่มี ผมไม่รู้สึกเลยว่ามีแรงกระเทือนอะไรทั้งสิ้น” เมื่อถามย้ำว่าวันที่ 7 สิงหาคมยังเป็นวันประชามติ 100% เหมือนเดิมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “อย่ามาคาดคั้นผมเลย เพราะ1.วันประชามติได้ล็อกอยู่ในรัฐธรรมนูญแล้วว่าต้องทำใน 120 วัน 2.ล็อกอยู่ในพ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติ 3.ล็อกอยู่ในการประกาศของกกต. 4.ล็อกอยู่โรดแมปคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนั้นเราควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามปกติ”
เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อชี้แจงการออกเสียงประชามติบนเวทีของแต่ละภูมิภาครวม 3 ครั้งนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนรัฐบาลก็จะเข้าร่วมชี้แจงกับกกต.และตัวแทนของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในการชี้แจงการออกเสียงประชามติในเวทีแรกที่จัดที่จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ แต่อีกสองเวทีในพื้นที่ภาคเหนือจัดที่จ.เชียงใหม่ และครั้งสุดท้ายพื้นที่ภาคอีสานจัดที่จ.นครราชสีมา ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะต้องดูว่าติดภารกิจอะไรหรือไม่
