บัณฑิตวิศวะฯ ม.อุบลฯ นายอนวรรษ ดำพะธิก สมัครเข้าทำงานเป็น รปภ. เหมือนพ่อ อยากเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต ความอดทน ที่พ่อทำงานมากว่า 25 ปี ก่อนที่เข้ารับราชการทหารกองเกิน ในต้นพ.ย.นี้ พร้อมก้าวไปสู่งานในสายอาชีพที่ตนเรียนมาหลังปลดประจำการ
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำงานในการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. หลายคนอาจมองว่าเป็นอาชีพที่ไร้เกียรติ ใครก็สามารถทำได้ แต่ นายอนวรรษ ดำพะธิก หรือ อั้น บัณฑิตป้ายแดงคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปัจจุบันอายุ 24 ปี ที่พึ่งสำเร็จการศึกษา และเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งเขามีความศรัทธาในอาชีพนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่เกิดจำความได้เขาเห็นพ่อ นายสมสุข ดำพะธิก แต่งชุดเครื่องแบบ รปภ.ทุกวัน จึงมีความผูกพันเป็นเครื่องแบบฮีโร่ในดวงใจก็ว่าได้ โดยครอบครัวมีพ่อเป็นเสาหลักในการหารายได้เพียงคนเดียว ซึ่งปัจจุบัน นายสมสุข ดำพะธิก ทำงานเป็น รปภ. สังกัด สำนักงานรักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในช่วงการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อนหลายคนถามว่าครอบครัวทำอาชีพอะไร อั้น ตอบแบบมั่นใจและภูมิใจว่าพ่อเป็น รปภ.ที่ ม.อุบลฯ ส่วนแม่เป็นเกษตรกรอาชีพทำนา ซึ่งมีบัณฑิตอั้น เป็นลูกชายคนเดียว ภายหลังที่ อั้น อนวรรษ สำเร็จการศึกษา ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ เขาตัดสินในสมัครสอบคัดเลือกเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รปภ.ประจำมหาวิทยาลัย เพื่อสัมผัสชีวิตเรียนรู้ประสบการณ์ รปภ.อาชีพของพ่อทำมาจนส่งตนเรียนจนสำเร็จการศึกษาในวันนี้
นายอนวรรษ ดำพะธิก หรือ อั้น บัณฑิตวิศวะฯ ม.อุบลฯ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ในช่วงหนึ่งของชีวิตได้มาสัมผัสในอาชีพ รปภ. ทราบเลยว่าพ่อลำบากแค่ไหน พ่อทำอะไรในแต่ละวัน สิ่งที่สัมผัสได้และเป็นประสบการณ์ที่ดี ทั้งด้านความรับผิดชอบในหน้าที่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การอำนวยความสะดวกช่วยเหลือคนอื่น ความมีน้ำใจ และความอ่อนน้อมถ่อมตน ที่สำคัญฝึกระเบียบวินัย มีความอดทน ซึ่งแต่ละวันต้องทำงานกว่า 12 ชม. หรือบางวันตลอด 24 ชม.ประสบการณ์วันนี้ทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้นโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และการทำงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ตนได้สมัครเป็นทหารเกณฑ์ ผลัดสอง จะเข้าประจำการเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งภายหลังจากปลดประจำการ ได้วางแผนการทำงานในสายวิชาชีพที่เรียนมาอย่างเต็มที่ ซึ่งชายไทยต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ซึ่งตนก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้ชาติด้วย อั้น อนวรรษ กล่าว
ด้านนายสมสุข ดำพะธิก ผู้เป็นพ่อกล่าวว่าบุตรชายนับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย ในการกล้าคิด กล้าทำ ยอมรับในทุกสายอาชีพ เทิดทูนในอาชีพ รปภ.ของพ่อ ความมีกตัญญูกตเวที จากเด็กหนุ่มบ้านนาที่มีผลการเรียนช่วง ม.ปลาย ไม่ค่อยจะดีนัก ติด 0 ติด ร. มากกว่า 32 ตัว ด้วยความเชื่อมั่น ความพยายาม จึงปรับตัวเองใหม่ วางเป้าหมายตนเองใหม่ทำให้เขาสามารถเข้าศึกษาในคณะและมหาวิทยาลัยที่ชอบได้สำเร็จ จนมาถึงนี้ วันแห่งความสำเร็จเป็นบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว
