ความคืบหน้ากรณีชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมกำลังทหารและตำรวจ จู่โจมตรวจสอบสถานบริการ นาตารี อาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษก คุมตัวหญิงสาวต่างด้าวและหญิงอายุไม่ถึง18 ปี รวม 121 คน รวมทั้งคนคุมและพนักงานเชียร์แขกอีก 5 คน ดำเนินคดี นอกจากนี้ยังตรวจพบโพยจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.)กล่าวว่า ในโพยส่วยมีชื่อหน่วยตำรวจท่องเที่ยวเข้ามารับส่วยที่สถานบริการอาบอบนวดนาตารีนั้น ทางสถานบริการไม่ได้ระบุชื่อว่าใครได้รับผลประโยชน์ที่ระบุนั้นเป็นชื่อหน่วยงาน ทาง บก.ทท.เกี่ยวข้องอะไรไม่ได้ แต่หากมีชื่อจริงตามที่ระบุจะต้องมีการตรวจสอบ ส่วนตัวตนไม่ยุ่งอยู่แล้ว น่าจะเป็นหน่วยงานอื่นหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเจ้าของสถานบริการมีความสนิทสนมส่วนตัวกับใครและเต็มใจที่จะให้กันก็ว่ากันไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.)สั่งกำชับในที่ประชุมทุกสัปดาห์ให้บก.ทท.ที่รับผิดชอบในพื้นที่กำชับเรื่องการจับกุมการค้ามนุษย์และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ทุกประเภท โดยเน้นบริการนักท่องเที่ยวและกวดขันจับกุมพวกไกด์เถื่อนที่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง(สตม.)ซึ่งเป็นอีกหน่วยที่มีการระบุในโพยนั้น มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดย ตร.ให้สรุปผลการตรวจสอบในภาพรวมส่งไปยัง ตร.โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องรอพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบให้สิ้นสงสัยและข้อกังขาให้ได้เสียก่อน
