วันที่ 28 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากเครื่องโทรมาตรของสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ว่า ช่วงเวลาประมาณตีห้า ถึงแม้ทุกพื้นที่จะเริ่มอุ่นขึ้น แต่อุณหภูมิก็ยังต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียสอยู่ โดยบริเวณสำนักงานเขตหลักสี่ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 17.8 องศาเซลเซียส และที่สำนักงานเขตบางรัก อุณหภูมิสูงสุด คือ 19.3 องศาเซลเซียส
แหล่งข่าวนักวิชาการด้านอากาศของ สสนก.กล่าวว่า สาเหตุที่อากาศยังคงเย็นอยู่ แม้ว่าความกดอากาศสูงได้อ่อนกำลังลงแล้ว เป็นเพราะความเย็นที่มากับหย่อมความกดอากาศสูงยังคงพอมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ช่วงเที่ยงไปจนถึงเวลาบ่ายเมื่อเริ่มมีแสงแดดอุณหภูมิก็จะเริ่มสูงขึ้น โดยวันที่ 28 มกราคม นั้นภาพรวมของพื้นที่กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 30-35 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ช่วงเช้า อากาศเย็น อุณหภูมิ 15-20 องศาเซลเซียส ประมาณบ่ายสามโมง ก็จะอุ่นขึ้น อุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น ทุกพื้นที่ก็จะอุ่นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ช่วงบ่ายอุณหภูมิอาจจะขึ้นไปที่ 35 องศาเซลเซียส
“แต่หลังจากนั้น วันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงก็จะแผ่ลงมายังประเทศไทยอีกครั้ง แต่พื้นที่ที่จะได้รับอิทธิพลคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะทำให้อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวลดลงมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่มาก และไม่รุนแรงเท่าครั้งที่ผ่านมา โดยทำให้ในช่วงเช้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิลดเหลือ 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนบ่ายจะอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่ภาคกลาง ได้รับอิทธิพลเล็กน้อย ช่วงกลางคืนและเช้ามืด อุณหภูมิจะอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส แต่กลางวันจะเข้าสู่ภาวะปกติคือร้อน อุณหภูมิราว 30-35 องศาเซลเซียส ส่วนจะหนาวอีกครั้งหรือไม่ ต้องมาดูอีกครั้งในช่วงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ อาจจะมีความกดอากาศสูงลงมาได้อีก หรือถ้าไม่มีแล้วก็คงต้องรอฤดูหนาวปีหน้า ” แหล่งข่าวจาก สสนก.กล่าว
เมื่อถามว่า แล้วฤดูร้อนในปีนี้จะร้อนมากกว่าปกติหรือไม่ แหล่งข่าวจาก สสนก.กล่าวว่า สำหรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนั้น คาดว่าปีนี้อากาศโดยเฉลี่ยก็น่าจะร้อนกว่าปกติ
