ตร.ทองหล่อ โชว์รวบแก๊งสกิมเมอร์แดนมังกร ตระเวนก่อเหตุกว่าหลายล้าน

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมฝ่ายสืบสวน แถลงจับกุมตัวนายโจว เผ่ยหัว อายุ 31 ปี และนายชู ไห่ จิน อายุ 33 ปี สองผู้ต้องหาสมาชิกแก๊งสกิมเมอร์ชาวจีน พร้อมของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 34 ใบ เครื่องอ่านข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 2 เครื่อง เครื่อง OTP 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อแอปเปิล สีเทา 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อเลอโนโว สีเทา 1 เครื่อง เครื่องอ่านเมมโมรี่การ์ด 1 เครื่อง แฟลชไดรฟ์ 1 อัน พวงกุญแจพร้อมแฟลชไดรฟ์ 1 อัน กระเป๋าสีดำ 2 ใบ กระเป๋าใส่บัตร 1 ใบ หนังสือเดินทางนายโจว เผ่ยหัว 1 เล่ม ใบบันทึกรายการเครื่องฝากเงินธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ บัตรคีย์การ์ดโรงแรมย่านสุขุมวิท 1 ใบ และใบข้อมูลเข้าพักโรงแรม 6 แผ่น โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าตู้บริการเงินด่วนธนาคารกสิกรไทย ซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

พ.ต.ท.จิรกฤต กล่าวว่า ขณะที่ตำรวจชุดจู่โจม สน.ทองหล่อ กำลังออกปฏิบัติหน้าที่มาถึงบริเวณหน้าตู้บริการเงินด่วนธนาคารกสิกรไทย ซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พบผู้ต้องสงสัยยืนอยู่หน้าตู้กดดังกล่าว ท่าทีมีพิรุธ เมื่อเห็นตำรวจพยายามเดินหลบหนีทันที ตำรวจจึงขอตรวจค้นพบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเครื่องอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และของกลางบางส่วนอยู่ที่ตัวผู้ต้องสงสัยทั้งคู่ จากนั้นทำการขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 1004 โรงแรมเดอะยูโรแกรนด์ ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.พบของกลางที่เหลือทั้งหมด จึงทำการตรวจยึดไว้ ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางทำการสอบสวน ที่สน.ทองหล่อ

ก.25
สอบสวน นายโจว ให้การยอมรับสารภาพว่า บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่พบทั้งหมดเป็นของปลอมมีผู้มาฝากไว้ รวมทั้งเครื่องอ่านข้อมูลก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวยังยอมรับว่ารับจ้างในการนำบัตรและเครื่องมือเกี่ยวข้องเข้ามายังประเทศไทย เป็นเงิน 5,000 หยวน ส่วนนายชู ไห่ จิน ขอไม่ให้การ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายชู ไห่ จิน ไม่ปรากฏชื่อนามสกุลดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าเจ้าตัวใช้ชื่อและนามสกุลปลอมในการเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย นอกจากนี้เมื่อทำการตรวจสอบประวัติการโอนเงินพบว่าก่อนที่ทางตำรวจจะจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้นั้น เพิ่งได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารประเทศจีน 30,000 บาท และเมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปอีกมีประวัติการโอนเงินหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนปลายทางประเทศจีนอีกหลายครั้ง เป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท รวมทั้งมีแนวทางการสืบสวนพบหลักฐานวิธีการสอนทำการถ่ายโอนข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า “สกิมเมอร์” อยู่ภายในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของคนร้ายอีกด้วย

พ.ต.ท.จิรกฤต กล่าวอีกว่า จะสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เนื่องจากเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการนี้อีกหลายราย เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลง หรือสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลงซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม หรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่นว่านั้นเพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง, ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมอันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น” และแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” แก่นายชู ไห่ จิน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image