กกต.สมชัย ชี้อาจผิดคำสั่งคสช. หากพบแกนนำพท.นัดโชว์จุดยืนไม่รับรธน.โยงพรรค

“สมชัย” มอบนโยบายการออกเสียงประชามติ “ปลัดอำเภอ-ผช.จ่าจังหวัด” ชี้ ภารกิจสำเร็จได้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน หากผลออกมาทางใดต้องจบ ยึดหลัก 3 ป.เป็นหัวใจหลักทำประชามติ ยัน พท.โพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรธน.ไม่ผิดพ.ร.บ.ประชามติ แต่ถ้าตรวจสอบพบว่าเชื่อมโยงพรรคการเมืองอาจขัดคำสั่งคสช.ได้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 16 มิถุนายน ที่โรงแรมบางกอกพาเลส ประตูน้ำ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมโครงการสัมมนาเพื่อชี้แจงขั้นตอนการออกเสียงประชามติและมอบนโยบายการสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยมีปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบการออกเสียงประชามติทุกอำเภอและผู้ช่วยจ่าจังหวัดทุกจังหวัด รวมกว่า 954 คน เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ นายสมชัย กล่าวตอนหนึ่งว่า ภารกิจของการจัดการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ไม่ใช่เรื่องที่กกต.จะสามารถทำสำเร็จได้เพียงลำพัง แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายภาคส่วนมาร่วมมือกัน ซึ่งกลไกของกรมการปกครองนับว่ามีความหมายที่จะช่วยให้การทำประชามติเกิดความสำเร็จ โดยหน้าที่ของฝ่ายจัดการออกเสียงเราไม่สนใจว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่ต้องการให้เกิดข้อยุติว่าสังคมคิดอย่างไรกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากผลออกมารับคือจบออกมาไม่รับก็คือจบ ไม่ใช่มาก่อกวนหรือเป็นปัญหาต่อกัน ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ว่าผลของการทำประชามติจะออกมาในแนวทางใดก็ขอให้สบายใจได้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นในปี 2560 แน่นอน

นายสมชัย กล่าวว่า หลักการออกเสียงประชามติ กกต.เราชูคำว่า “ยุทธศาสตร์ 3 ป.” ซึ่งประกอบด้วย ป.ที่หนึ่ง ประชาชนสะดวก คือมีการขยายเวลาการลงคะแนนออกเสียงประชามติไปจนถึงเวลา 16.00 น. เปิดช่องทางการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มีแอพพลิเคชั่นดาวเหนืออำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางไปยังหน่วยออกเสียงประชามติ ซึ่งแอพตัวนี้กกต.ไทยทำเป็นที่แรกของโลก รวมทั้งแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุ สามารถพาคนที่ไว้ใจเข้าไปยังหน่วยออกเสียงได้ 1 คน จัดหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ ส่วนป.ที่สอง ประชามติเที่ยงธรรม คือทำให้ฝ่ายที่เห็นเหมือนเห็นต่างมีความเท่าเทียมกันให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน กฎ กติกา ของการจัดการออกเสียงต้องถูกรักษาไว้อย่างเที่ยงธรรม ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ การแสดงความคิดเห็นต่างๆ สามารถทำได้บนพื้นฐานของการไม่พูดเท็จ ไม่หยาบคาย และไม่ปลุกระดม

นายสมชัย กล่าวต่อว่า มีคนสอบถามมามากว่าบุคคลระดับสูงของพรรคเพื่อไทย(พท.)ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมกันว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลต่างๆ ผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติหรือไม่ ส่วนตัวถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นการแสดงออกส่วนบุคคลตามเสรีภาพ แต่หากตรวจพิสูจน์ว่าการกระทำดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายทำเองโดยคนของพรรค ก็อาจจะตอบว่าไม่ผิดกฎหมายประชามติแต่อาจผิดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่กำหนดห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ หากผิดคำสั่งคสช.ซึ่งเปรียบเหมือนกฎหมาย ทางนายทะเบียนพรรคการเมืองก็จะเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Advertisement

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ป.ที่สาม คือประชาธิปไตยคุณภาพ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากที่สุด เพราะคือการทำให้ประชาชนรู้สาระร่างของรัฐธรรมนูญอย่างเพียงพอต่อการตัดสินใจไปหย่อนบัตรเพื่อลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหวังว่าทุกคนจะเป็นกลไกสำคัญช่วยประเทศในการเดินสู่ทางออกของประเทศที่เหมาะสม ทุกอย่างอยู่ในมือทุกคนถ้าทำเต็มที่ความสำเร็จเกิดขึ้นแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image