แชร์ว่อน! คำสั่ง นพ.สสจ.สิงห์บุรี เตือนหมอเรียกเงิน ‘ฝากท้องพิเศษ’ ปลัดสธ.เชื่อไม่ใช่ทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะบุคลากรในแวดวงสาธารณสุขมีการเผยแพร่คำสั่งของ นพ.ปรารถนา ประสงค์ดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) จังหวัดสิงห์บุรี ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2559 เกี่ยวกับเรื่องการร้องเรียนการให้บริการ โดยส่งถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่ง สาธารณสุขทุกอำเภอในจังหวัดสิงห์บุรี สืบเนื่องจากมีหนังสือร้องเรียนจากผู้ที่ไปรับบริการในหน่วยบริการในจังหวัดไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสิงห์บุรี ในเรื่องเกี่ยวกับการฝากพิเศษ หรือรับค่าฝากครรภ์พิเศษประมาณ 4,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่ราชการ มีความผิดวินัยร้ายแรงมีโทษสถานหนักคือไล่ออก ตามมาตรา 88 (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และโทษทางอาญาด้วย

โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรีได้พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขสิงห์บุรี จึงขอให้กำกับดูแลเจ้าหน้าที่ทุกระดับในหน่วยงานของท่านมิให้กระทำผิดโดยรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ใดๆ ที่ส่งผลต่อการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานนั้น โดยให้ถือเป็นนโยบายอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการเผยแพร่คำสั่งดังกล่าวและมีการแชร์ในโซเชียลฯอย่างกว้างขวาง ปรากฏว่ามีการแสดงความเห็นต่างๆ มากมาย อาทิ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Ittaporn Kanacharoen” ระบุว่า “หมอใหญ่ สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ประกาศว่าการเรียกค่าฝากท้องพิเศษ 4000.- บาท ถือว่าทุจริต ผิดวินัยร้ายแรงเข้าข่ายถูกดำเนินคดีตามมาตรา 88 (5) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พ.ศ.2551 มีโทษสูงสุดถึงไล่ออก และอาจมีโทษทางอาญาคือ “คุก” ด้วย..ที่สำคัญ นอกจากผิดอาญาแล้ว เผลอๆ ยังมีโทษทางจริยธรรมของ “แพทยสภา” ร่วมด้วยนะครับ” ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ไม่ใช่แค่ฝากท้อง แต่ผ่าต้อกระจกมีการลัดคิว แต่ต้องจ่าย 3,000 บาทก็มี นอกจากนี้ยังมีผ่าตัดกระดูกทับเส้นต้องจ่ายเพื่อลัดคิวอีก 4,000-5,000 บาทก็มี ฯลฯ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.สุขสันติ พักธรรมนัก รอง นพ.สสจ.สิงห์บุรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผู้รับบริการร้องเรียนมายัง นพ.สสจ.สิงห์บุรี ซึ่งได้เข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบกรณีดังกล่าว คือไม่มีมูลข้อเท็จจริง แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวในพื้นที่ เนื่องจากการรับเงินไม่ว่ากรณีใดเป็นพิเศษถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ทั้งตามมาตรา 88 (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และโทษทางอาญา และยังผิดวินัยราชการต้องถูกไล่ออก ยังมีโทษ ป.อาญา มาตรา 149 ทุจริตต่อหน้าที่ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยจำคุก 5 ปี และปรับอีก 2,000-40,000 บาทด้วยเหตุนี้จึงมีการทำหนังสือเพื่อป้องปรามไว้ก่อนไม่ให้เกิดเรื่อง โดยให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและสาธารณสุขอำเภอในจังหวัดเข้มงวดกวดขันเจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนไม่ให้ปฏิบัติงานที่ผิดวินัยและไม่ชอบ ไม่เช่นนั้นจะมีโทษร้ายแรง

Advertisement

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสธ.ตรวจสอบและรายงานมาแล้วว่า ไม่มีมูล แต่ไม่ได้นิ่งเฉยก็กำชับให้เข้มงวดขึ้นอย่าให้มีกรณีเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม จากการฝากครรภ์นั้น เป็นการให้บริการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และผู้ป่วยสามารถเลือกหมอได้ ส่วนผู้ป่วยที่พึงพอใจการดูแลของหมอคนไหนสามารถให้สินน้ำใจได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ และมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท ตามระเบียบกำหนด แต่หมอไม่ควรเรียกเก็บ เพราะถือเป็นการใช้โรงพยาบาลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ แต่เชื่อว่าคนประพฤติดีมีมากกว่าอยู่แล้ว

44

55

Advertisement

13406837_1127703593957112_6649339423813805670_n

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image