“มักกะลีผล” ลาม พบเงื่อนงำ ออกโฉนดในเขตป่า”พยัคฆ์ไพร”เตรียมยึด!!

กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพต้นมักกะลีผล หรือต้นนารีผล ไม้ในเทพนิยายที่ออกผลคล้ายกับหญิงเปลือยกาย ที่ขึ้นอยู่ในพุทธธรรมสถานวัดผาซ่อนแก้ว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ แพร่หลายผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก สร้างความฮือฮาในสังคมอย่างมาก แต่ต่อมาชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว พบว่า ต้นมักกะลีผล หรือ นารีผลนั้นเป็นเพียงต้นไม้ที่หล่อขึ้นมาจากปูนพลาสเตอร์ และผลของมักกะลีผล หรือนารีผล ที่เป็นรูปหญิงเปลือยนั้นเป็นเพียงพลาสติกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ไม่ใช่ผลไม้จริงตามที่มีการบอกต่อกันแต่อย่างใดนั้น

วันที่ 18 มิถุนายน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติ(สปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สปป.4พร้อมกับชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่นั้นแล้ว ว่าใครเป็นเจ้าของพื้นที่ ที่ทำต้นมักกะลีผลปลอมขึ้นมา และทำขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ทั้งนี้ เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เนื่องจากบริเวณนั้น เป็นพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ.2484 อยู่ในพื้นที่มีความลาดชันเกิน 35% รวมทั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)พ.ศ.2546 ซึ่งออกเอกสารสิทธิไม่ได้อยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเวลานี้ บริเวณดัะงกล่าวได้รับเอกสารสิทธิ ทั้งโฉนดที่ดิน และนส.3 เกือบหมดแล้ว ที่สำคัญและน่าสงสัยก็คือ เอกสารสิทธิส่วนใหญ่เพิ่งจะออกในปี 2558 นี่เอง

ผู้เชี่ยวชาญ ฝ่ายปฏิบัติการ กอ.รนม.กล่าวว่า สำหรับพุทธธรรมสถานวัดผาซ่อนแก้วนั้น พบว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ถูกต้อง จำนวน 10 ไร่ ซึ่งการที่กรมป่าไม้อนุญาตนั้น ทางวัดไม่จำเป็นจะต้องออกเอกสารสิทธิใดๆก็ได้ แต่เบื้องต้นที่ตรวจสอบ พบว่า เวลานี้ วัดมีโฉนดที่ดินกินพื้นที่ถึง 100 ไร่ เอกสารสิทธิเพิ่งจะออกเมื่อปี 2558 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ พื้นที่ฝั่งฝาของบริเวณวัดเป็นพื้นที่หน้าผาลาดชั้นราว 80-90% ซึ่งแน่นอนว่า ความชันขนาดนี้ออกเอกสารสิทธิไม่ได้แน่นอน

“วัดนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง มีญาติโยม รวมทั้งนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกันมากมาย ใกล้วัดก็มีที่จอดรถบริการ เจ้าของที่สามารถเก็บค่าจอดรถได้วันละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท เดือนละนับแสนบาท ตอนนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดผาซ่อนแก้ว ทำหนังสือ ขอให้ทางกรมป่าไม้เข้ามาเพิกถอนโฉนดที่ดินของวัดออกแล้ว เพราะในเมื่อวัดทำเรื่องขอใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้ถูกต้องไม่จำเป็นต้องมีโฉนดก็ได้ แต่กรณีนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของขบวนการออกเอกสารสิทธิที่จงใจจะออกครอบคลุมพื้นที่วัดด้วย เพื่อไม่ให้มีใครกล้าเข้ามาเพิกถอน ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด”พ.อ.พงษ์เพชร กล่าว

Advertisement

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า พื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์นั้นเป็นพื้นที่เป้าหมายครั้งต่อไป ที่นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรเข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการยึดคืนพื้นที่ ที่ถูกครอบครองโดยไม่มีเอกสารสิทธิ และออกเอกสารสิทธิโดยผิดกฏหมาย เพราะในจำนวน บ้านพัก และรีสอร์ตหรูทั่วประเทศ ที่ถูกสร้างอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนโดยมิชอบนั้น อยู่ในพื้นที่ อ.เขาค้อประมาณ 400 กว่าแห่ง ถือว่าเยอะที่สุดในประเทศไทย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศสวยงาม มีอากาศดีตลอดทั้งปี คาดว่า ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ร่วมกับกอ.รมน.จะลงพื้นที่เพื่อดำเนืนการเรื่องนี้ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image