ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงประติมากรรมที่วัดบางขุนเทียนนอก เขตจอมทอง กรุงเทพ ฯ ซึ่งมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย แต่มีดวงตา และขาเหมือนเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ทำให้มีการตั้งคำถามในโซเชียลเน็ตเวิร์กถึงความไม่เหมาะสม เพราะไม่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา อีกทั้งมีรูปลักษณ์ส่อไปในทางเพศนั้น
“มติชนออนไลน์” ได้ลงพื้นที่ไปยังวัดดังกล่าว ได้พบพระครูเกษมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาส ซึ่งอธิบายว่า ประติมากรรมดังกล่าว เรียกว่า “เสือปลัดขิก” เนื่องจากมีส่วนหัวเป็นปลัดขิก แต่มีรูปร่างเป็นเสือเพื่อสื่อถึงการมีพละกำลังมหาศาล เกิดจากการสร้างสรรค์ผ่านจินตนาการของตน ไม่ได้ลอกตามแบบอย่างของผู้อื่นมา เนื่องจากเล็งเห็นว่า มนุษย์ยังหมกมุ่นในกามารมณ์ ตัณหา ราคะ จึงทำเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง จึงจงใจเปรียบเทียบว่า ขนาดอวัยวะเพศที่ไม่ได้มีกำลังวังชามากมายด้วยตัวของตัวเอง ยังทำให้โลกวุ่นวายขนาดนี้ ถ้ามีกำลังเหมือนเสือจะวุ่นวายเพียงใด
แต่เดิม เมื่อราว 20 ปีก่อน ทำขึ้นเป็นชิ้นเล็กๆ ต่อมา มีชาวบ้านปรึกษาปัญหาครอบครัวและอาชีพ ว่ามีการทะเลาะกัน กิจการไม่ก้าวหน้า ตนจึงมอบเสือปลัดขิกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ปรากฏว่ากิจการก้าวหน้า มีความสามัคคี จากนั้น จึงมีการบอกต่อกันปากต่อปาก และเกิดการสร้างประติมากรรมขนาดใหญ่ขึ้นดังที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงต้นเค้าดั้งเดิมว่า มาจากวัดบางขุนเทียนนอกแห่งนี้
“ร้านแอร์แถวนี้ลูกน้องทะเลาะกัน อาตมาก็ให้เสือปลัดขิกไป เพื่อเป็นกำลังใจต่อสู้ค้าขาย ปัจจุบันขยายกิจการ ไม่มีปัญหาทะเลากัน เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากกำลังใจของเขาเอง ผสมกับความเชื่อ ซึ่งคนเราจะเชื่ออะไรก็ได้ที่จะเป็นกำลังใจให้ตัวเองทำงานให้สำเร็จ โดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น นอกจากนี้เสือปลัดขิก ยังเป็นกุศโลบายให้คนไม่ยึดติดด้านกามารมณ์ ซึ่งทำให้โลกวุ่นวาย” เจ้าอาวาสกล่าว และว่า ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าประติมากรรมดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับ ‘เพชรพญาธร’ ซึ่งให้คุณในด้านความเสน่ห์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เนื่องจากเสือปลัดขิกเกิดจากจินตนาการเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงกับเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใด
พระมงคล จิตมังคโล พระลูกวัด และเลขานุการเจ้าอาวาส กล่าวว่า ปัจจุบันมีการทำเสือปลัดขิกเป็นเครื่องรางของขลัง เนื่องจากชาวบ้านต้องการนำไปบูชา ทางวัดจึงทำขึ้นให้เช้า แล้วนำรายได้มาพัฒนาวัดในด้านต่างๆ เช่น ก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด
“เสือปลัดขิก ทำจากวัสดุหลากหลาย มีทั้งไม้ประเภทต่างๆ เช่น ไม้พยุง ไม้ชุมแสง ไม้เกิด ไม้มะเกลือ แบบที่เป็นโลหะก็มี นอกจากนั้นก็ทำเป็นหัวเข็มขัดด้วย เพราะบางคนไม่สะดวกพกพา เมื่อทำเสร็จจะมีการปลุกเสกด้วยคาถาส่วนตัวของหลวงพ่อ” พระมงคลกล่าว
ส่วนการถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ทางวัดมองว่า ทุกคนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับเรื่องของความเชื่อ ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ขอให้เป็นสิ่งที่ดี ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ก็เพียงพอแล้ว