เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและคณะกรรมการส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.)ได้นำเสนอผลการประเมินนักเรียนตามโครงการประเมินผลผู้เรียนนานาชาติ หรือ PISA ซึ่งพบจุดอ่อนในวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ จึงเห็นว่าต้องเร่งพัฒนาครูทั้ง 2 วิชา นอกจากนี้ต้องพัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยให้เข้มแข็งด้วย เนื่องจากมีผลเชื่อมโยงต่อการเรียนในทุกวิชา หากนักเรียนอ่านและวิเคราะห์เนื้อหาเป็น ก็จะเรียนวิชาอื่นได้เข้าใจด้วย ดังนั้นจึงได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตรวจสอบว่านักเรียนป.1-ป.3 เรียนภาษาไทยวันละกี่ชั่วโมง และให้พิจารณาปรับเพิ่มชั่วโมงเรียน
“แม้ไม่มีการประเมินวิชาภาษาไทยในระดับนานาชาติ แต่วิชาภาษาไทยก็เกี่ยวโยงกับวิชาอื่นๆ ดังนั้นจะทิ้งวิชานี้ไม่ได้ ถ้าเด็กอ่านออกและเข้าใจเนื้อหาที่อ่านและจับประเด็นได้ การไปเรียนวิชาอื่น ก็ง่ายขึ้น ผมจึงให้สพฐ.ไปดูว่า ป.1-ป.3 มีการสอนอ่านจับประเด็นหรือไม่ หรือว่าสอนแบบนกแก้วนกขุนทอง หากเป็นแบบนั้น ครูก็ต้องเปลี่ยนมาสอนให้เด็กอ่านและจับประเด็นให้เป็น” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวและว่า สำหรับแนวทางการพัฒนาวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ นั้น สสวท.มีมาตรฐานของครูทั้ง 2 วิชาอยู่แล้ว แต่มีครูบางส่วนเท่านั้นที่เข้าถึงมาตรฐาน ดังนั้นจะต้องทำให้ครูทุกคนทราบถึงมาตรฐาน โดยเริ่มจากครูชั้น ม.3 ก่อน ตนได้มอบให้ สสวท.ทำมาตรฐานเนื้อหาของทั้ง 2 วิชาเพื่อมอบให้ สพฐ. นำไปเผยแพร่ รวมถึงอาจให้มีการทดสอบครูเพื่อดูว่าได้พัฒนาตนเองไปมากน้อยเพียงใด
