วีรกรรม “คุณชายสุขุมพันธุ์” สารพัดเรื่องฉาว หรือคนดีถูกกลั่นแกล้ง?

วีรกรรม "คุณชายสุขุมพันธุ์" สารพัดเรื่องฉาว หรือคนดีถูกกลั่นแกล้ง?

วีรกรรม “คุณชายสุขุมพันธุ์” สารพัดเรื่องฉาว หรือคนดีถูกกลั่นแกล้ง?

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หรือ คุณชายหมู ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชื่อนี้น่าจะเป็นตำนานของศาลากลาง กทม. แน่นอนแล้ว

ในทางการเมือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2 สมัย โดยเมื่อปี 2556 คุณชายหมูชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย คว้าไป 1.2 ล้านคะแนน เฉือนอันดับสองอย่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนทะลุล้านเช่นกัน นับเป็นพ่อเมือง กทม. ที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุด

หากนับในเรื่องการทำงานก็มีเรื่องให้คนจดจำโจษจันไม่แพ้ใคร

ช่วงเริ่มต้นของการทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม. สมัยแรก สร้างผลงานด้วยการเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ได้แก่ สายตากสิน-บางหว้า, อ่อนนุช-แบริ่ง และ หมอชิต-สะพานใหม่ โดยในสองส่วนแรกเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Advertisement

หล่ออยู่ได้ไม่นานเรื่องฉาวให้ชาวบ้านวิจารณ์เริ่มโผล่มา กับโครงการติดกล้อง CCTV จำนวน 2 หมื่นตัว กทม. ยืนยันว่าติดตั้งครบ แต่พอเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้ กลับใช้งานไม่ได้ ก็อ้างว่ามีกล้องบางส่วนอยู่ระหว่างรอการเชื่อมกระแสไฟฟ้า

เป็นที่มาของโครงการระดับตำนาน “ใครเจอกล้องดัมมี่รับเงินทันที 1 แสนบาท” เป็นโครงการเรียกความเชื่อมั่นว่ากล้อง กทม. ใช้งานได้จริงทุกตัว (หากต่อไฟแล้ว)

ประโยคเด็ดกลายเป็นภาพจำของคุณชายหมูคงไม่พ้น “ไม่อยากน้ำท่วมต้องไปอยู่บนดอยครับ”

Advertisement

เหตุเกิดจากช่วงต้นปี 2558 พายฝนซัดกระหน่ำกรุงเทพฯ น้ำขังน้ำท่วมคนกรุงใช้ชีวิตกันอย่างทุลักทุเล มีคลิปการเผชิญปัญหาน้ำท่วมขังทั้งที่ออกแนวน่ารักและดูน่าสงสารเต็มโลกโซเชียลเป็นข่าวใหญ่โตรถติดสนั่นเมือง คนเริ่มหงุดหงิดถามหาผู้ว่าฯ กทม. ไหนบอกจะแก้ปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหารถติด ไหนบอกมีโครงการอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำพระราม 9 -รามคำแหง แต่ทำไมน้ำนองท่วมเมืองทะลุท่วมเข้าไปถึงกลางห้างสรรพสินค้าดัง

ร้อนถึงคุณชายหมู ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรียกศรัทธาแต่กลับหลุดประโยคเด็ด

“ประเทศเราเป็นเมืองน้ำ เราเป็นเมืองฝน ไม่มีจุดเสี่ยงเลยเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่อยากให้มีจุดเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ให้ไปอยู่บนดอยครับ”

หลังแถลงข่าวจบ ชีวิตทางการเมืองของคุณชายหมูก็แทบจะจบตามไปด้วย

ร้อนถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ต้องออกมาขอโทษคนกรุงเทพฯ แทน

โดยอ้างว่าคุณชายหมูพูดอย่างนั้นเพราะเหนื่อยกับการแก้ปัญหามากไปหน่อย

ช่วงท้ายสมัยการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของคุณชายหมู ดูจะไม่สดใส หลังแตกหักตัดขาดกับพรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของคุณชายหมูอย่างเข้มข้น เปิดประเด็นการส่อทุจริตในหลายโครงการของ กทม.

เริ่มเปิดประเด็นเรื่องแรกกับโครงการจัดซื้อเครื่องดนตรีให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม. เป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 งบประมาณรวมกว่า 1.3 พันล้านบาท

แต่นายวิลาศ แฉว่าซื้อเครื่องดนตรีไปแต่ใช้ไม่ได้จริง เพราะไม่มีครูสอน

ร้อนถึงทีมงานผู้ว่าฯ กทม. ต้องออกมาชี้แจงเป็นการด่วน พร้อมยืนยันว่าส่งมอบเครื่องดนตรีครบถ้วนใช้งานได้จริง แม้ครูจะขาดแคลนแต่ก็อบรมครูวิชาอื่นไปสอนดนตรีแทนพอถูไถไปได้

ยังไม่ทันพักหายใจ พายุลูกใหม่พุ่งใส่คุณชายหมูอีกครั้ง กับโครงการกรุงเทพฯ แสงสีแห่งความสุข หรือ อุโมงค์ไฟหน้าลานคนเมือง มูลค่า 39 ล้านบาท กับคำถามที่ว่าคุ้มค่าหรือไม่

โดยเรื่องนี้ นายวิลาศ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ

ผลสอบปรากฏว่ามีข้อผิดปกติหลายจุดชัดเจน เช่น บริษัทที่ชนะประมูลไม่มีประสบการณ์ด้านการประดับไฟเลย โดยเรื่องนี้ก็ยังเป็นชนักปักหลังคุณชายหมูอยู่จนถึงเวลานี้

เพราะขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการไต่สวนโดยคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก กับกรณีล่าสุดกับโครงการงานปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ใช้งบประมาณกว่า 16.5 ล้านบาท กับคำถามคาใจประชาชนว่าจำเป็นแค่ไหนกับการปรับปรุงห้องทำงานผู้บริหารที่เหลือวาระตามปกติอีกไม่กี่เดือน

ล่าสุด สตง. เข้าตรวจสอบเรื่องนี้แล้วพร้อมระบุชัดว่ามีการดำเนินโครงการผิดขั้นตอนเพราะมีการดำเนินโครงการไปแล้วแต่มาประกาศหาผู้รับจ้างทีหลัง

ส่วนเรื่องรูปแบบและราคาตรงกับราคากลางหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ

คาดว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ

อีกเรื่องที่ไม่ค่อยได้พูดถึงกัน คือเรื่องโครงการบำบัดน้ำเสียภายใต้ชื่อ “โครงการศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ” เป็นโครงการบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท ตั้งอยู่ในสวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ พื้นที่ในการบำบัดน้ำเสียครอบคลุม 4 เขต ได้แก่ บางซื่อ จตุจักร ดุสิต และพญาไท รวม 20.7 ตร.ก.ม. จำนวนบ่อดักน้ำเสีย 163 บ่อ

นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อม ห้องจัดประชุมสัมมนาขนาด 200 ที่นั่ง และอุทยานไม้น้ำ ไม้ห้อม พันธุ์ไม้ในโครงการพระราชดำริ เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2555

แต่ปัจจุบันนี้แหล่งข่าวยืนยันว่า โรงงานบ่อบำบัดน้ำเสียแห่งนี้ เครื่องจักรต่างๆ เปิดใช้งานเพียงบางส่วนเพื่อบำบัดน้ำเสียแค่ในสวนรถไฟเท่านั้น ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ

ขณะที่สถานที่จัดแสดงนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อมก็ยังไม่มีการจัดแสดง ห้องประชุมสัมมนาขนาด 200 ที่นั่งก็ยังไม่มีการใช้งาน

ส่วนอุทยานไม้น้ำก็ขาดการดูแลเสียหายไปกว่าครึ่งแล้ว และก็ยังไม่ได้จัดแสดงให้ได้ประโยชน์แต่อย่างใด

สำหรับโครงการนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่ลงทุนมากแต่ไม่คุ้มค่า

คุณชายสุขุมพันธุ์กับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติก็เหลือเวลาอีกไม่มากในการทำหน้าที่

แต่ตอนนี้ยังมีคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ให้เลือกตั้งผู้นำท้องถิ่น ดังนั้น ถ้า คสช. ยังอยู่ก็การันตีได้ว่า คุณชายสุขุมพันธุ์ก็ยังนั่งเก้าอี้พ่อเมืองกรุงเทพฯ ได้ (แม้จะไม่สบายนัก)

แต่พระท่านว่าไม่มีอะไรแน่นอน

เพราะอย่าลืมกระบี่ ม.44

ถ้าอยู่แล้วคนหงุดหงิดเป็นตัวฉุดภาพลักษณ์ความนิยม คสช. อะไรก็เกิดขึ้นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image