เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ กทม.2(ดินแดง) ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ร่วมประชุมการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมกล่าวว่า จากข้อมูลเฉลี่ยในรอบ 25 ปี ปริมาณฝนวันที่ 1-20 มิถุนายนอยู่ที่ประมาณ 120 มิลลิเมตรแต่ระยะเวลา 1-21 มิถุนายนที่ผ่านมาฝนตกแล้วกว่า 260 มม. ซึ่งถือว่ามากกว่าที่ผ่านมาถึง 2 เท่า ทั้งนี้ ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาฝนตกสูงมาก โดยรวมตกสองรอบมีฝนสะสมกว่า 200 มม. ซึ่งส่งผลให้ถนนสายหลัก 36 จุดเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระบายน้ำก่อนประชาชนจะออกจากบ้านแล้ว 27 จุด เหลือ 9 จุดที่ดำเนินการล่าช้า แต่ปัจจุบันกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยย้ำเสมอว่าให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงประจำจุดเสี่ยงก่อนที่ฝนจะตก อีกทั้งยังได้ให้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ เป้าหมายคือ การระบายน้ำบนเส้นทางหลักในทันทีหลังจากฝนหยุดตก เพราะเป็นเส้นทางหลักของกทม.ที่ประชาชนใช้สัญจร หากไม่ระบายในเส้นทางหลักก็จะไม่สามารถระบายในตรอก ซอก ซอยได้ แต่ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตเข้าไปดูแลในชุมชน ในแต่ละหมู่บ้านด้วยโดยเฉพาะกลุ่มคนสูงอายุ คนพิการ หรือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแล
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงเพื่อเร่งระบายน้ำ แต่ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงประชาชนริมฝั่งคลองด้วย อย่างคลองลาดพร้าวตามปกติกทม.จะพร่องน้ำไว้ที่ระดับ -60 จากระดับน้ำทะเล แต่ช่วงเช้าวันที่ 21 มิถุนายนกลับอยู่ที่ระดับ +20 ซึ่งหากระบายลงไปจำนวนมากจะกระทบกับประชาชนริมฝั่งคลอง ซึ่งกทม.อยู่ระหว่างเร่งพร่องน้ำออกให้เท่าเดิมโดยเร็วที่สุดแต่ก็จะต้องใช้ระยะเวลา เนื่องจากฝนตกตลอดทำให้มีน้ำเติมเข้าไปเรื่อยๆ ทั้งนี้กทม.มีมาตรการแก้ปัญหาระยะยาวคือการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ปีหน้า ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาในพื้นที่เขตจตุจักร บางซื่อและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นระบบระบายน้ำที่ได้ผล ตัวอย่างเช่น อุโมงค์พระราม 9 ที่ทำให้บริเวณรามคำแหง คลองตัน พัฒนาการ ซึ่งเคยมีน้ำท่วมขังเวลาฝนตกหนัก ขณะนี้ไม่ท่วมแล้ว
“ต้องกราบขออภัยคนกรุงเทพที่ได้รับความเดือดร้อนในวันนี้ และขออภัยหากจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคตอีก เพราะกทม.เป็นเมืองน้ำ ต้องมีน้ำรอการระบาย อีกทั้งเป็นปกติของน้ำที่จะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ทั้งนี้ น้ำบนผิวการจราจรไม่ใช่น้ำท่วมแต่เป็นน้ำขังรอการระบาย” ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าว
