เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 มิถุนายน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 และพ.ต.ท.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ รองผกก.ปส.1 แถลงจับกุม นายเสฐวุฒิ สารีวงษ์ อายุ 40 ปี นายสมพร เอี่ยมสำอางค์ อายุ 50 ปี นายนพพร เอี่ยมสำอางค์ อายุ 21 ปี สองพ่อลูก นายอรรณพ บุญใส อายุ 52 ปี (อ้างเป็นทหารยศจ.ส.อ.) นายปริญญา เสือน้อย อายุ 48 ปี นายอนุศร ชุ่มเย็น อายุ 37 ปี และเยาวชนอีก 2 คน นอกจากนี้ยังควบคุมตัว พ.อ.ปรีชา ภาแก้ว นายทหารนอกราชการ แต่งกายชุดทหารยศพันเอก สังกัดกองทัพบกด้วย
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ตำรวจปส.1สืบทราบว่าร้านโอเพชร ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำหมายค้น เข้าตรวจค้นเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำหน่ายสินค้าแบบ20บาททั้งร้าน พบนายเสฐวุฒิ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและร้านดังกล่าว และมีเยาวชน2คนอยู่ด้วย ตรวจค้นพบยาบ้า 200 เม็ด ยาไอซ์ 2.23 กรัม อุปกรณ์การเสพไอซ์ ใบกระท่อม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางภายในชั้น2ของบ้าน สอบสวนนายเสฐวุฒิ รับว่า รับยาทั้งหมดมาจากนายหมอ(ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) มากว่า2 เดือน โดยนายหมอ จะส่งยามาให้สัปดาห์ละครั้ง นำไปจำหน่ายต่อให้เด็กในหมู่บ้าน
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวต่อว่า ขณะตำรวจตรวจค้นอยู่นั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มชายขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน ภก 9294 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีเทา ทะเบียน 4กถ 2935 กรุงเทพมหานคร มาจอดหน้าบ้าน จากนั้นชาย5 คนเดินลงมาจากรถ พร้อมทั้งใช้ไม้เขี่ยกล้องวงจรปิดให้หันไปทางอื่น ก่อนจะเดินเข้ามาในบ้านพร้อมแสดงตัว เป็นทหาร จาก กอ.รมน. และตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)พยายามข่มขู่กรรโชกทรัพย์นายเสฐวุฒิและเยาวชนอีก2คน เมื่อทราบว่ามีตำรวจปส.อยู่ด้วย จึงพยายามทำทีว่าเป็นทหารขอเข้าตรวจค้นด้วย แต่ตำรวจปส.เอะใจจึงขอตรวจสอบพบบัตรทหาร บัตรตำรวจระบุ ชื่อ ด.ต.อภินันท์ ทรงบัณฑิต ผบ.หมู่ กก.1บก.ป. เป็นบัตรปลอม ขณะที่นายอรรณพ ที่อ้างว่ามียศ จ.ส.อ.นั้น ตรวจค้นพบยาไอซ์ ด้วย จึงจับกุมตัวชายทั้ง 5 ราย พร้อมตรวจค้นรถยนต์ พบ พ.อ.ปรีชา นั่งรออยู่ในรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า จึงควบคุมตัวไว้ และจากการตรวจค้นรถยนต์ทั้งสองคัน พบเครื่องแบบทหารยศร.ต. ทะเบียนรถปลอม หมวกทหาร และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่บช.ปส.
สอบสวน พ.อ.ปรีชา เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกรรโชกทรัพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา แต่ที่แต่งกายชุดทหารเป็นเพราะจะไปทำธุระ อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากตรวจสอบประวัติ พบว่า พ.อ.ปรีชา เป็นนายทหาร ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว
ส่วนนายอรรณพ อ้างตัวเป็นทหารยศจ.ส.อ.นั้น ให้การว่า เคยเป็นทหาร ก่อนจะลาออกจากราชการ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบหมายจับ คดีร่วมบุกรุกเคหะสถาน และกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่สน.สายไหม เมื่อปี2558
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และแต่งกายเลียนแบบทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่นายเสฐวุฒิและเยาวชนอีก2คน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะเข้าควบคุมตัวพ.อ.ปรีชานั้น พบว่าพ.อ.ปรีชาใส่ชุดทหาร และมีเข็มสำคัญหลายเข็มกลัดอยู่ที่ตัวเสื้อ จากการตรวจสอบพบว่าเข็มสำคัญบางอันนั้น พ.อ.ปรีชาไม่สามารถติดได้ เนื่องจากยังไม่ได้ผ่านหลักสูตรหรือเกณฑ์ที่จะติดได้ อย่างไรก็ตามยังพบอีกว่าพ.อ.ปรีชาเป็นทหารสังกัด กระทรวงกลาโหม มียศเป็นพ.อ.พิเศษ ซึ่งเกษียณราชการไปแล้ว ดังนั้นในการสวมใส่ชุดทหารนั้นจะต้องมีเข็มสัญลักษณ์ “นก” หมายถึงนอกราชการ แต่พ.อ.ปรีชาไม่ติดสัญลักษณ์ดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาสวมใส่เครื่องแบบโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ติดเครื่องหมายนอกราชการ ในส่วนของข้อหาอื่นๆอยู่ระหว่างสอบปากคำ หากพบว่าผิดข้อหาใดเพิ่มก็จะแจ้งต่อไป
