‘วะกะยะ’ พ่อแม่ลูกบ้านไหนไร้ปัญหา?

หนังญี่ปุ่นที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์ปีที่แล้ว เรียกน้ำตาผู้ชมได้ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ เรื่อง ‘วะกะยะ’ (wagaya) หรือบ้านของฉันซึ่งในที่นี้คือบ้านของเรา ใช้เวลาสองชั่วโมงนิดๆกำลังเพลิน

เรื่องของบริษัทบริการเพื่อนหรือตัวแทนในกาลเทศะต่างๆ ที่ผู้ชมอาจแปลกใจชนิดอารมณ์ถูกกระชากแต่แรก เมื่อเห็นชายหนุ่มอยู่ร่วมกับหญิงชราอย่างกลมกลืน ทั้งเป็นเพื่อนเล่นไพ่ทั้งทำอาหารให้กิน แต่ทันทีที่นาฬิกาส่งเสียงเตือน เราจึงรู้ว่าหมดเวลาที่ชายหนุ่มมารับจ้างเป็นเพื่อนหญิงชราแล้ว ขนาดวิ่งมาขอให้อยู่กับเธอด้วยอีกสักหน่อยก็ไม่ได้ เพราะหมดเวลางานแล้ว และจะกลายเป็นเรื่องส่วนตัวไป

ชีวิตอะไรจะตลกร้ายเช่นนี้ ที่เต็มไปด้วยคนเหงาทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะคนชราซึ่งปราศจากลูกหลานไส่ใจดูแล

แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองที่มาทำงานลักษณะนี้ในเมืองหลวง ก็ด้วยความโดดเดี่ยวเงียบเหงา ฝังใจกับบาดแผลซึ่งพ่อที่มีอาชีพพ่อครัวทิ้งไว้ให้หลังออกจากบ้านไป ให้แม่อยู่กับลูกสองคน จนโตขึ้นอย่างหวาดกลัวการมีครอบครัว

Advertisement

เขาพบคนเหงามากมาย กระทั่งหญิงสาวที่คนรักหนีไป และเสนอให้เขาเป็นเพื่อนสนิทชนิดไม่เกี่ยวข้องกับงาน เขาก็ไม่ยอมรับ (หรือไม่กล้ายอมรับ)

เก้าอี้วะกะยะ1

แต่แล้วเขากลับพบน้องสาวคนเดียวที่จากกันมานาน เมื่อเธอมาบริษัทร้องขอคนแสดงตัวแทนบิดา เพื่อไปต้อนรับครอบครัวคู่หมั้นที่มีกำหนดไปเยี่ยมบ้าน

Advertisement

ตลกร้ายอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังกินข้าวเที่ยงสนทนากันอยู่ดีๆ พ่อตัวจริงเกิดกลับมาบ้าน และตามไปร้านอาหารซึ่งสองครอบครัวกำลังทำความรู้จักกันอยู่

จากนั้น ทั้งสี่คนกลับมากินข้าวพร้อมหน้ากันที่บ้านอีกครั้ง ที่ดีใจกว่าใครคือน้องสาวซึ่งไม่เคยมีภาพพ่อในใจมาก่อน แม่ก็อยากให้พ่อกลับมาอยู่ แต่พ่อบอกว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจยอมรับหรือไม่ของลูกสองคน

เก้าอี้วะกะยะ2

ลูกชายไม่ยอม ความฝังใจรุนแรงและลึกซึ้ง แม้ผู้ชมจะรู้สึกได้ถึงความรักและโหยหาที่มีอยู่เต็มเปี่ยมก็ตาม น้องสาวโกรธและพยายามอ้อนวอนพี่ชาย

พ่อจากไปอีกครั้ง หากจบอย่างนั้นจะโหดร้ายกับทั้งตัวละครและผู้ชมเกินไปไหม

แต่นั่นมิใช่ความจริงซึ่งพบเห็นกันเป็นธรรมดาหรือ

ยูโกะ ทะนะกะ ที่ผู้ชมไทยรู้จักกับบท ‘โอชิน’ เป็นหญิงชาวบ้านที่เล่นหนังเหมือนไม่ได้เล่น เป็นแม่ที่งำความลับบางอย่างไว้จนลูกกับพ่อทำร้ายกันเกินไป จึงคลี่คลายออกมา

มุไค โอสะมุ นักแสดงหนุ่มที่ผู้ชมไทยรู้จัก เป็นหนุ่มที่กล้ำกลืนอดีตกรุ่นไว้พร้อมจะปะทุ จนท้ายที่ยอมลดทิฏฐิตัวเอง กลับพบว่าทิฏฐิของพ่อยังมีอยู่เหมือนตัวเคยมี จะทำอย่างไรดี

ผู้ชมน่าติดตามความเป็นไปของครอบครัวนี้จนลงเอย  ว่าแผลเป็นหรือแผลที่เคยเป็นนั้น  แผลใจต่างจากแผลกายมาก  ตรงที่สามารถเยียวยาได้จนมองไม่เห็น หรือกลับจะถ่างกว้างลึกล้ำลงไปอีกมากได้.

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image