The Conjuring 2 หนังผีพิสูจน์ความประสาทแข็ง

The Conjuring 2 หนังผีพิสูจน์ความประสาทแข็ง

ปรกติไม่ชอบดูหนังผี แต่หลังจากดู The Conjuring ภาคแรก เกิดอาการติดใจ เป็นหนังผีที่ไม่ธรรมดาทั้งหลอน ทั้งน่ากลัว ทั้งสนุก ซ้ำหนังยังมีอารมณ์ของหนังสืบสวน สืบสวนเรื่องที่เหนือธรรมชาติ ไม่แปลกเลยที่จะกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ทำรายได้สูงสุดในรอบสิบปี จากทุนสร้างเพียงแค่สิบสามล้านเหรียญ พร้อมเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างไม่เกินความจริง ดูภาคแรกทั้งหลับตา ทั้งปิดตาแอบดูผ่านช่องนิ้ว ทั้งหรี่ตาดู แต่ก็ไม่เข็ด พอรู้ว่าภาคสองเข้า ยังไงๆ ก็ต้องไปดู

ภาคนี้ เจมส์ วาน กำกับเหมือนเดิม ต้องบอกว่า เจมส์ วาน เป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังที่น่าทึ่งมากๆ กำกับหนังผีได้อย่างมีชั้นเชิง นั่งระทึกตลอดทั้งเรื่อง ทั้งเกร็ง ทั้งกลัว ทั้งลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร กำกับหนังแอคชั่นอย่าง Fast and Furious 7 ก็ทั้งโม้ทั้งสนุก ในภาคนี้ยังคงรักษามาตรฐานเดิมได้อย่างเหนียวแน่น นำเสนอความน่ากลัวแบบอัดแน่นและจัดเต็ม ใช้ทั้งภาพ บรรยากาศ เพลงและซาวด์ประกอบ ที่สร้างอารมณ์คนดูให้รู้สึกร่วมไปกับตัวละคร ค่อยๆ เพิ่มความหลอน หวาดระแวงและจับทางไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางครั้งจินตนาการไปเองจนแทบนั่งไม่ติดที่

เพลงประกอบหนังเรื่องนี้ต้องบอกว่าฝีมือจริงๆ เอาเพลงใสๆ น่ารักแบบเพลงเด็กๆ มาทำให้น่ากลัวได้อย่างคาดไม่ถึง อย่างเพลง This old man ที่เด็กๆ ร้องเล่น เจมส์ วาน ก็เอาทำนองเพลงมาทำเป็นเสียงผิวปากของบิล วัลคินส์ วิญญาณชายชราที่ตายและติดยึดกับบ้านหลังนี้ ซ้ำถูกบงการจากซาตานชั่วร้ายที่มีอำนาจเหนือกว่าให้ออกมาคุกคามเด็กๆ ฟังแล้วเยือกเย็นน่ากลัวจนขนหัวลุก หรือเพลง There was a crooked man ก็เอามาใส่ประกอบเครื่อง zoetrope (เครื่องเล่นของเด็กรูปทรงกระบอกที่เขียนภาพไว้ภายใน พอเครื่องหมุนภาพจะเคลื่อนไหว) วิญญาณใช้พลังร้ายทำให้เครื่องเล่นนี้มีชีวิต ปรากฏตัวในภาพชายหลังค่อมรูปลักษณ์ชวนสยอง จนทั้งตัวละครและคนดูที่ขวัญอ่อนต้องสะดุ้งและเผลอร้องกรี๊ด

แม้แต่เพลงที่นิยมร้องช่วงคริสต์มาสอย่างเพลง Hark The Herald Angles Sing ที่มักร้องในโบสถ์ ก็เอามาประกอบการปรากฏตัวของวิญญาณร้ายในคราบแม่ชีที่พอเพลงนี้ขึ้น คนดูจะผวาและสยองเพราะผีแม่ชีตนนี้ไม่หวั่นเกรงอะไรทั้งสิ้น กล้าปรากฏตัวแบบเห็นหน้าเห็นตาเต็มๆ โจมตีแบบกะเอาตายทั้งเหยื่อและครอบครัวของผู้ที่จะมาช่วยเหลือ ขนาดเหยื่อหนีไปอยู่บ้านเพื่อนก็ยังตามไปอาละวาด หรือเพลง Silent Night ที่แสนจะไพเราะก็ฟังวังเวงชอบกลในหนังเรื่องนี้ ยังมีเพลงเพราะๆ อย่างเพลง Can’t help falling in love และ เพลง I started a joke ที่ใส่เข้ามาเหมือนจะคลี่คลายบรรยากาศให้คนดูหลอนน้อยลง ก่อนจะเริ่มเขย่าขวัญสั่นประสาทด้วยความสยองที่แสนจะน่าสะพรึงกลัวต่อไป

Advertisement

The Conjuring 2 สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นประมาณปี 1977 เอ็ด (แพทริค วิลสัน) นักปีศาจวิทยา และลอร์เรน วอร์เรน (เวรา ฟาร์มิก้า) ภริยาที่มีสัมผัสพิเศษสามารถเห็นนิมิตเกี่ยวกับภูตผีและวิญญาณ กลับมารับงานเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหลือเชื่อที่เอนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ครอบครัวฮอดจ์สันที่มีเพ็กกี้ (ฟรานเชส โอ’คอนเนอร์) แม่ม่ายที่ถูกสามีทอดทิ้งและลูกสี่คน ถูกหลอกหลอนจากอำนาจลึกลับ เจเน็ต (เมดิสัน วูลฟ์) ลูกสาววัยสิบเอ็ดปีเป็นเป้าหมายของวิญญาณร้ายที่เข้าสิง และคุกคามเธออย่างสาหัส

เหตุการณ์นี้เป็น The most documented case in paranormal history. มีพยานรู้เห็นเป็นตำรวจลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน มีสื่อที่บันทึกภาพเจเน็ตตัวลอยอยู่กลางอากาศจากกล้องที่ติดตั้งในห้องนอน และการสัมภาษณ์จากรายการโทรทัศน์ ที่จู่ๆ เสียงเจเน็ตก็เปลี่ยนเป็นเสียงชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าปี

พล็อตเรื่องไม่ใช่พล็อตใหม่ เป็นเรื่องครอบครัวที่ถูกผีหลอกในบ้านที่อยู่อาศัย แต่การนำเสนอเรื่องเร้าอารมณ์ให้คนดูติดตามอย่างไม่เบื่อหน่าย The Conjuring 2 เหมือนภาคแรกที่มีนักแสดงเป็นเด็กหลายคน แต่เด็กๆ ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เมดิสัน วูล์ฟ แสดงได้ดีมากๆ คนดูทั้งลุ้นทั้งเอาใจช่วยให้เอ็ดและลอร์เรนสามารถช่วยเธอได้

ในส่วนเอ็ดและลอร์เรนเอง มีบทบาทที่เด่นกว่าภาคแรก ภาคแรกหนังเน้นความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ถูกผีร้ายคุกคาม โดยมีเอ็ดและลอร์เรนเป็นผู้ไปช่วย แต่ภาคนี้ เอ็ดและลอร์เรนมีบทบาทเป็นพระเอกนางเอกของเรื่องอย่างสมบูรณ์ คนดูได้เห็นความรัก ความผูกพันของทั้งสองคนที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจกันและกัน เมื่อลอร์เรนเห็นนิมิตการตายของเอ็ด คนดูจะรู้สีกระทึก หายใจไม่ทั่วท้อง และลุ้นไม่ให้เป็นจริง

ผีในหนังภาคนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น ความลึกลับก็มีมากกว่าภาคแรก แต่ทั้งสองภาคสนุกและน่ากลัวพอๆ กัน มุขหลอนบางมุขแม้ไม่ใช่มุขใหม่ แต่มุมกล้อง แสงสี และเสียง ยังคงความน่ากลัวตามแบบฉบับหนังผีของเจมส์ วาน น่าลองให้คนดูไปพิสูจน์ความประสาทแข็ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image